ขุนแผนพระอาจารย์อึ่ง วัดเชิงหวาย เมื่อตอนที่โด่งดังขึ้นมาใหม่ๆก็มีปัญหาเรื่องของความเหมาะสม จนมีการสอบสวนและได้ผลสรุปไปแล้วอย่างที่ทราบกันนั้นคือ ขุนแผนนี้ศิษย์สายตายสร้างมาเองเป็นการส่วนตัว และขอให้พระอาจารย์อึ่งช่วยปลุกเสกให้เพื่อจะนำไปแจกกับเพื่อนที่ฮอ่งกง โดยพระอาจารย์ก็เมตตาเสกให้โดยไม่ได้แกะกล่องพระออกดูว่าอะไร ทราบแต่ว่าเป็นพระขุนแผน เมื่อเสร็จสิ้นเจ้าของได้มารับของกลับและแกะกล่องออกเพื่อมอบของในกล่องไว้ให้พระอาจารย์อึ่งจำนวนหนึ่ง พระอาจารย์เห็นแล้วยังตกใจไม่นึกว่าจะมีหน้าตาเป็นแบบนี้และเข้าใจทันทีว่าไม่สมควร จึงได้มอบให้โยมที่อยู่แถวนั้นนำออกไปแจกจ่ายให้คนอื่นต่อๆไป แต่ปรากฏว่าด้วยความที่ไม่เหมาะสมทางรูปลักษณะจึงเป็นเรื่องราวใหญ่โต แต่ในทางตรงกันข้าม แม่ค้าพ่อค้าในตลาดที่ได้รับแจกขุนแผนนี้กลับขายดีเป็นเทน้ำเทท่า มีประสบการณ์ด้านเมตตาสูงมาก แม้ตำรวจที่โรงพักย่านนั้นยังยกขบวนมาขอ ซึ่งพระอาจารย์ก็ไม่มีให้ และในท้ายที่สุดผู้ทำพระก็ออกมายอมรับผิดและแสดงความรับผิดชอบพร้อมทั้งอธิบายให้สื่อมวลชนรับทราบ ขุนแผนนี้ไม่ใช่ ** พระ ** แต่เป็นเครื่องรางด้านเมตตา หากถามความเหมาะสม ถ้าไม่ใช่พระ และชาวบ้านทำมาเอง ส่วนตัวผมว่าพระอาจารย์ก็ไม่ได้ผิดอะไรเพราะไม่ได้รับรู้ตั้งแต่ต้น ดูทุกวันนี้ทั้งพระทั้งฆราวาสสร้างเครื่องรางออกมาแต่ละอย่าง ยิ่งกว่าขุนแผนโคโยตี้เสียอีก ยกตัวอย่างง่ายๆ ยันต์ม้าเสพนาง ช้างเสพนาง สกรีนเป็นรูปม้าเสพสมกับผู้หญิงชัดเจนเต็มตลาดไปหมด กลับไม่มีใครว่าไม่เหมาะสม แถมบางแห่งวัดจัดสร้างเองด้วย ทั้งอ้น ทั้งอีเป๋อ ล้วนเข้าข่ายทั้งนั้นครับ
ในครั้งนั้นขุนแผนที่เหลือตกค้างถูกสั่งทุบทำลายจนหมด กลายเป็นว่า เป็นของหายากไปแล้วในวันนี้และยังมีคนต้องการกันมาก ทั้งเมตตาและค้าขายดี ใครๆก็อยากได้ ดังนั้นจึงมีของปลอมเต็มตลาดไปหมดแล้ว องค์นี้เพ้นสีมีโค๊ตตรงรอยจารหมึกทับด้าหลังพอดี ต้องเอียงดูจะเห็น
ห้ามแขวนรวมกับพระ เพราะเป็นเครื่องราง แขวนเอว เหน็บกระเป๋าเสื้อ กระเป๋ากางเกง ใส่ตะกร้าเก็บเงิน ได้ทั้งนั้น ของแบบนี้แล้วแต่มุมมอง ใครชอบก้เก็บ ใครไม่ชอบก็ผ่านไป ส่วนตัวผมรู้สึกเฉยๆ มีไว้องค์นึงเป็นประวัติศาสตร์
|