2216 : สิทธิสตรี...เรื่องที่เพศชายต้องรู้
|
ใรอบ 10 ปีที่ผ่านมา องค์รวมของเด็กหญิงและผู้หญิงไทยภายใต้แนวคิด สิทธิสตรี มีการเปลี่ยนแปลง พัฒนา ก้าวหน้ารวดเร็วยิ่ง
สถาบันการศึกษาดั่งเช่น มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดหลักสูตรระดับปริญญาโทด้าน Woman Study ขึ้นจนเป็นที่นิยมแพร่หลาย
ผู้หญิงหัวก้าวหน้าลุกขึ้นมาประกาศความเป็นตัวตน พื้นที่ สื่อสาธารณะ การศึกษา ตัวบทกฎหมาย ศาสนา วัฒนธรรม ค่านิยม แตกแขนงในเชิงวิเคราะห์ แยกแยะวิจารณ์ในความไม่เสมอภาคการเอารัดเอาเปรียบ ความแตกต่างด้านเพศ อคติของความอ่อนแอ วัตถุทางเพศ และอื่นๆ
กลุ่มหัวก้าวหน้าเหล่านี้ปรากฏชื่อในแวดวงวิชาการหลายท่านไม่ว่าจะเป็น ดร.จุรี วิจิตรวาทการ ทางด้านกฎหมาย ดร.วิลาสินี พิพิธกุล ด้านสื่อมวลชน ดร.ผุสดี ตามไท ด้านการเมือง พระภิกษุณีธัมมนันทา ด้านศาสนา คุณทิชา ณ นคร กลุ่มผู้หญิงกับรัฐธรรมนูญ ดร.ชลิดาภรณ์ ส่งสัมพันธ์ ด้านทฤษฎีผู้หญิง เป็นต้น
กลุ่มบุคคลเหล่านี้ชี้ให้เห็นความแตกต่างไม่เท่าเทียมกัน ความมีอคติในเรื่องเพศจนนำไปสู่การแก้ไขเปลี่ยนแปลงตั้งแต่รัฐธรรมนูญฉบับปี พ.ศ.2540 จนถึงฉบับปัจจุบัน พ.ร.บ.คำนำหน้านามบุคคล ความรุนแรงด้านเพศ อคติจากเพศของสื่อโฆษณาในสื่อมวลชน การบวชเป็นภิกษุณีได้ในศาสนาพุทธ การเคลื่อนไหวทางด้านการเมืองในประเด็นสาธารณะและอื่นๆ
กล่าวได้ว่าในรอบทศวรรษที่ผ่านมาความเคลื่อนไหวและกระแสดังกล่าวทำให้มุมมองของเพศชายจำนวนไม่น้อยเกิดการตื่นตระหนก เรียนรู้ มีการปรับเปลี่ยนวิธีการคิด ค่านิยม พฤติกรรมทางเพศของตนไม่น้อยเดียว และเริ่มหันมาใส่ใจลดอคติ ให้โอกาสและเรียนรู้ทฤษฎีผู้หญิงมากขึ้น
ในทางกลับกับสิทธิสตรีที่เป็นเปลือกมิใช่แก่นสาระที่แท้จริงก็ถูกนำไปใช้อย่างผิดๆ ถูกๆ เพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ทราบอย่างผิวเผิน ตีความหมายไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและเยาวชน หญิงที่เปิดเผยสรีระ นุ่งสั้นรัดติ้ว เพื่อโชว์สรีระให้เพศตรงข้ามเตะตาหรือเพราะความเท่าเทียมกันในเรื่องของการเปิดเผย
เด็กและเยาวชนหญิงจำนวนไม่น้อยยอมรับการมีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่ง อายุน้อยลง อยู่ด้วยกันเพื่อเรียนรู้ก่อนแต่งจนนำไปสู่ท้อง แท้ง ทิ้ง ครอบครัววัยรุ่นเป็นอันมาก มีการสูบบุหรี่จัดจำนวนเพิ่มขึ้นถึง 5-6 เท่า เที่ยวกลางคืนมากขึ้น นี่คือการรับเอาวัฒนธรรมและค่านิยมที่มาจากวัฒนธรรมตะวันตกอย่างแท้จริง
สำหรับด้านดีในโลกของการศึกษาผู้หญิงมีความอดทน ขยัน ตั้งใจเรียนรู้ มีวินัยในตนเอง มุ่งมั่นพัฒนาตนเองมากยิ่งขึ้น เรียนหนังสือดีกว่าเพศชายที่หลุดจากระบบการศึกษา ด้วยสาเหตุต่างๆ มากขึ้น ตามลำดับแนวโน้มของมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทย นักศึกษาหญิง : นักศึกษาชายอยู่ในสัดส่วน 60:40 และเพิ่มจำนวนผู้หญิงมากขึ้นตามลำดับ
ในระยะ 2-3 ปีที่ผ่านมามีผลการสำรวจกลุ่มผู้หญิงในประเทศสหรัฐอเมริการวมทั้งในประเทศญี่ปุ่น สิงคโปร์ เกาหลีใต้ เยอรมนี ข้อมูลสอดคล้องกันกล่าวคือ ผู้หญิงมีแนวโน้มเป็นโสดมากขึ้น การมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกห่างออกไปมีอายุ 20 ปีขึ้นไป เรียนอุดมศึกษามากขึ้น
การมีเพศสัมพันธ์ส่งผลต่อโอกาสและคุณภาพชีวิตของตนเองลดน้อยลงโดยเฉพาะในช่วงวัยรุ่นหลังมีเพศสัมพันธ์แล้วคู่รักเพศชายมีการเปลี่ยนแปลงด้านลบ ขาดความรับผิดชอบ นิสัยเปลี่ยนไป เพศหญิงอยู่ด้วยกันมากขึ้น การศึกษาที่ดีกว่าสูงขึ้นมีความสำคัญกว่าเรื่องเพศสัมพันธ์เพราะผู้หญิงจะมีโอกาสด้านสถานภาพทางสังคม หน้าที่การงาน ครอบครัวที่ดีกว่าและมั่นคงขึ้น
ผู้หญิงรู้ดีกว่าการศึกษาเป็นช่องทางการเปิดโอกาส เปลี่ยนแปลงฐานะ และการปลดปล่อยความเป็นอิสระ ไม่ตกอยู่ภายใต้ร่มความคิด (Hegemony) ของเพศชายต่อไปได้
การคิดได้ คิดเป็นของหญิงยุคใหม่จึงเป็นการประกาศอิสรภาพครั้งใหญ่ (Independent Gender) ที่เด็กและเยาวชนหญิงไทยควรเรียนรู้มาก เพราะอย่างน้อยเด็กและเยาวชนหญิงของเราจะได้มีหลักการแนวคิด ที่ถูกต้องของทฤษฎีผู้หญิง คิดเป็นอย่างแนวร่วมผู้หญิงทั่วโลก มิฉะนั้นอาจเพียงนำเปลือกหรือความผิวเผินเรื่องเพศเสรี อยู่ก่อนแต่ง บุหรี่ มาบั่นทอนโอกาสและสุขภาพของตนเอง
ผู้หญิงจำเป็นต้องรู้จักดูแลควบคุมตนเอง หมั่นศึกษาเรียนรู้ให้สูงขึ้น เพศสัมพันธ์เป็นธรรมชาติของมนุษย์แต่มิใช่สิ่งสำคัญที่สุด การอยู่เป็นโสดมิใช่เรื่องผิดปกติเสียหายถ้าต้องอยู่กับเพศชายที่ไม่เคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ หญิง-ชายที่เท่าเทียมกัน
การศึกษาในเชิงวิวัฒนาการวัฒนธรรม ค่านิยม กรอบการคิด การวางระเบียบจารีตประเพณีระบอบกฎหมาย โครงสร้างทางสังคม ระบบหน้าที่การทำงานถูกฝังรกรากมายาวนาน อันเนื่องมาจากความมีอคติทางเพศ ความแตกต่างของสรีระชายหญิง และอื่นๆ ล้วนดำเนินมาจากระบบการเลี้ยงดูของครอบครัว การศึกษา การฝึกอบรมสั่งสอน โครงสร้างทางสังคม วัฒนธรรม กฎหมายและทางการเมือง
ผู้เขียนมีมุมมองด้านผู้หญิงดีขึ้น เปลี่ยนแปลง ยอมรับและเคารพ ความเป็นเพศตรงข้ามเพราะเกิดจากการศึกษาทฤษฎีผู้หญิงอย่างแท้จริง การวิเคราะห์แยกแยะ การให้เหตุผลจนเกิดการเรียนรู้ร่วมกันในชั้นเรียนที่มีหญิงและชาย แต่ความรุนแรง การท้าทาย การแบ่งแยก การตำหนิติเตียน การวิพากษ์ด้วยผรุสวาทนำมาซึ่งการปฏิเสธเสียมากกว่า การสร้างการยอมรับที่จำเป็นต้องปูพื้นฐานเรื่อง ทฤษฎีผู้หญิง ให้กับเด็กและเยาวชนในระบบโรงเรียนหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานมากยิ่งขึ้น ให้ตรรกะเหตุผลในกลุ่มเพศชายอย่างสันติความคิดในวงกว้างของสื่อมวลชน
มิฉะนั้นการเรียนรู้ทฤษฎีผู้หญิงจะจำกัดแคบอยู่เฉพาะข้างบน หญิงชนชั้นกลาง กลุ่มสนใจเฉพาะด้านไม่กี่คนเท่านั้นเอง
|
|
แสนดีเจริญรุ่งเรือง
2010-02-09 21:46:08 124.122.20.***
stat :
291 posts ,
0 replys
|