ฟรี ร้านค้า ออนไลน์ 44.223.39.199 : 29-03-24 16:16:25   
หน้าแรก siam-shop.com ค้นหาร้านค้าสมาชิก
ชื่อสินค้า  
Siam-Shop.com
    หมวดสินค้าของเรา            
  
Untitled Document
 
โน๊ตเพลง
โทรศัพท์&อุปกรณ์เสริม
โต๊ะ เก้าอี้
โชว์ การแสดง
เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องประดับ
อุปกรณ์และของใช้ในบ้าน
อุปกรณ์ เครื่องเขียน แบบเรียน
อื่นๆ
อื่นๆ
อื่นๆ
อินเตอร์เนต
สินค้า หรือ บริการทั่วไป
สัตว์เลี้ยง
รถยนต์ ประดับยนต์
รถ รถตู้ให้เช่า
ประกันภัย&ประกันชีวิต
บ้าน
ท่องเที่ยว
ที่พัก โรงแรม รีสอร์ท
ตุ๊กตา&ของเล่น
จักรยาน&จักรยานยนต์
คอมพิวเตอร์
ความงามและสุขภาพ
ก่อสร้าง
กวดวิชา ติวเตอร์ ฝึกอบรม
กระเป๋า
Notebook

Tag / คำค้น

  แสดงสินค้าทั้งหมด


  สปอนเซอร์ของเรา
   
   
   
กระดานถามตอบของร้าน ร้าน Siam-Shop.com หน้าแรกของร้าน
 

2020 : มาร์คถามสำนึกรักชาติ ตะเพิดแม้ว เลิกเห็นแก่ตัวสร้างปัญหา  
 




มาร์คถามสำนึกรักชาติ
ตะเพิดแม้ว
เลิกเห็นแก่ตัวสร้างปัญหา
ย้ำมาตรการโต้กัมพูชาไม่เกินเหตุ
คลังฟันซ้ำ-ทบทวนเงินกู้1.4พันล.
แม่ทัพ2ยันรบไม่แพ้แต่ขอยึดสันติ

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีของไทย ออกมาตำหนิ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดีอาญาแผ่นดิน อย่างเผ็ดร้อน จากกรณีฝ่ายหลังออกแถลงกล่าวหารัฐบาลทำเกินกว่าเหตุ เพื่อกดดันประเทศเพื่อนบ้านอย่างกัมพูชาด้วยการประกาศลดความสัมพันธ์ทางการทูต เพื่อขจัดปฏิปักษ์ทางการเมือง โดย นายอภิสิทธิ์ ถึงกับขอให้ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับไปทบทวนตัวเองให้คำนึงถึงผลประโยชน์ของบ้านเมืองตัวเองมากกว่าผลประโยชน์ของชาติอื่น พร้อมกับถามกลับอย่างตรงไปตรงมาว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีปัญหาเรื่องความรักชาติหรือไม่

มาร์คซัดแม้วคนไทยต้องรู้สึก

ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องดังกล่าวระหว่างร่วมการประชุมระดับผู้นำกรอบความร่วมมือประเทศลุ่มน้ำโขง ที่ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายนว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้เริ่มจากไทย แต่คำแถลงของกัมพูชากระทบกับกระบวนการยุติธรรมของไทยโดยตรง พ.ต.ท.ทักษิณ ก็เป็นคนไทย น่าจะรู้สึกบ้าง แต่กลับมองว่า รัฐบาลเป็นฝ่ายสร้างปัญหา

ตะเพิดกลับไปทบทวนตัวเอง

ที่จริง พ.ต.ท.ทักษิณ ควรทบทวนบทบาทของตัวเองมากกว่า ว่ากำลังทำอะไรอยู่ ยึดผลประโยชน์ของประเทศโดยส่วนรวม คิดถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศเพื่อนบ้านหรือไม่ ถ้าคิดถึงสิ่งเหล่านี้ก็น่าทบทวนและรู้ว่าควรทำอะไร นายอภิสิทธิ์ กล่าว

ย้ำอย่าสร้างปัญหาให้ชาติ

ส่วนกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวหารัฐบาลผลีผลาม ขาดสติ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า รัฐบาลดำเนินการทุกอย่างด้วยความระมัดระวังและสุภาพ และอยากบอกว่า อย่าเอาปัญหาตัวเองมาสร้างให้เป็นปัญหาของชาติ ต้องยอมรับความเป็นจริงว่า ความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา แม้จะมีบางประเด็นที่มีความละเอียดอ่อนมาตลอด เช่น กรณีปราสาทพระวิหาร แต่นับตั้งแต่รัฐบาลเข้ามาก็ได้พบกับนายกรัฐมนตรีกัมพูชาหลายครั้ง ซึ่งต่างมีความเข้าใจถึงแนวทางการแก้ปัญหาเป็นอย่างดี

ชี้พอจิ๋วไปเขมรก็เป็นเรื่อง

จนกระทั่ง พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย เดินทางไปกัมพูชา และมีประเด็นเรื่องการแต่งตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของกัมพูชา ปัญหาจึงเกิดขึ้น จึงต้องย้อนกลับไปว่า ต้นเหตุของปัญหามาจากไหน รัฐบาลแก้ไขปัญหาเพียงอย่างเดียวและปกป้องประโยชน์ของชาติ และศักดิ์ศรีของคนไทย

ยันมาตรการที่ใช้ไม่เกินเหตุ

เมื่อถามว่า มาตรการที่รัฐบาลไทยตอบโต้กัมพูชาถือว่ารุนแรงเกินไปหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ ตอบว่า ไม่รุนแรง และเราไม่เคยใช้ถ้อยคำที่เป็นปัญหา เพราะมาตรการที่ดำเนินการไม่ได้ก่อให้เกิดการปะทะ ไม่เกิดผลกระทบกับการเดินทางไปมาหาสู่ เป็นการแสดงออกทางการเมือง บวกกับการทบทวนสิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ มาสร้างปัญหาให้รัฐบาล ในฐานะที่ไปสวมบทบาทของการเป็นที่ปรึกษาฝ่ายกัมพูชา ทั้งๆที่ล่วงรู้ข้อมูลเรื่องการทำข้อตกลงของฝ่ายไทย ต้องถามว่าถ้าใครเป็นรัฐบาลจะยอมให้ประเทศไทยเสียเปรียบ จะยอมให้กระบวนการยุติธรรมไทยถูกตั้งคำถามวิพากษ์วิจารณ์หรือไม่ และถ้าเป็นเช่นนั้น เราจะปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติได้อย่างไร ความจริงควรไปถามคนสร้างปัญหามากกว่า

สงสัยทำไมต้องห่วงเขมร

นายอภิสิทธิ์ ย้ำด้วยว่า กระทรวงการต่างประเทศมีหน้าที่รักษาผลประโยชน์ของประเทศไทย ซึ่งการตอบโต้ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ทำให้เกิดข้อสงสัยมากยิ่งขึ้นว่า ข้อครหาที่เคยมีเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนในระหว่างที่ พ.ต.ท.ทักษิณ หรือคนของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นรัฐบาล ในเรื่องที่เกี่ยวกับกัมพูชาทั้งหมด เป็นจริงหรือไม่ ทำไมจึงเป็นห่วงผลประโยชน์ของประเทศอื่นมากกว่าประเทศตัวเอง หรือว่าไปมีผลประโยชน์อะไร

แม้วมีปัญหาเรื่องรักชาติ

เมื่อถามว่า มีการระบุรัฐบาลต้องการปลุกกระแสรักชาติเพื่อกลบกระแส นายอภิสิทธิ์ ตอบว่า รัฐบาลรักชาติ คนไทยก็รักชาติ เพราะฉะนั้นหากไม่ทำอะไรที่กระทบกับผลประโยชน์ของชาติ เรื่องก็จะไม่เกิด ไม่มีการปลุกกระแสอะไรทั้งนั้น หรือ พ.ต.ท.ทักษิณ มีปัญหาเรื่องรักชาติ

คลังเดือดสั่งทบทวนเงินกู้

ด้าน นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลังยืนยันจะดำเนินการตามนิติกรรมต่างๆ ในโครงการลงทุนที่กัมพูชาเซ็นสัญญากับไทยไปก่อนหน้านี้ แต่ในส่วนโครงการที่ยังไม่ได้มีการเบิกจ่าย เช่น โครงการสร้างถนนระหว่างประเทศ จ.สุรินทร์-เสียมราฐ วงเงิน 1,400 ล้านบาท กระทรวงการคลังก็จะสงวนท่าทีอนุมัติเบิกจ่ายเงินกู้ดังกล่าวไปก่อน

ไทยยังยึดถือในนิติกรรมที่ทำกันไว้ในระดับประเทศ แต่ก็มีอำนาจพิจารณาให้รอบคอบก่อนว่า สมควรจะมีการอนุมัติเบิกจ่ายเพื่อใช้ในโครงการลงทุนดังกล่าวด้วยหรือไม่นายกรณ์ กล่าว

เขมรอ้างไทยเลิกMOUไม่ได้

ส่วนความคืบหน้ากรณี นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ เตรียมเสนอให้ยกเลิกบันทึกข้อตกลงความเข้าใจ หรือ เอ็มโอยู ว่าด้วยการพัฒนาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทยกับกัมพูชาที่ทำขึ้นในสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น สำนักข่าวต่างประเทศรายงานโดยอ้างการเปิดเผยของ นายวาร์ คิมฮอง ผู้เจรจาเรื่องพรมแดนระดับสูงของรัฐบาลกัมพูชาว่า ในเอ็มโอยูไม่มีข้อความใดที่ยินยอมให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งยกเลิกข้อตกลง จนกว่าจะหาข้อสรุปเรื่องพื้นที่ทับซ้อนกันได้

เลขาฯกษิตสวน-ยันล้มได้

อย่างไรก็ตาม นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการ รมว.การต่างการประเทศ ได้ออกมาแย้งว่า เป็นสิทธิที่กัมพูชาจะเข้าใจอย่างนั้น แต่ในฐานะคู่เจรจา เราก็มีสิทธิ เพราะขณะนี้สถานการณ์ได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว เพราะการตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจ ถือว่ามีผลต่อการเจรจาตามกรอบเอ็มโอยู เนื่องจากบันทึกข้อตกลงดังกล่าว เป็นบันทึกที่เกิดขึ้นโดยการริเริ่มและจัดทำขึ้นโดย พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ย่อมรู้ความลับของไทยเป็นอย่างไร นี่เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ไทยสามารถยกเลิกได้

บอกเขมรรู้ดีทางออกคืออะไร

ขณะที่มาตรการช่วยเหลืออื่นๆ ให้กับกัมพูชานั้น นายชวนนท์ กล่าวว่า ทุกเรื่องต้องดูสถานการณ์ ประเด็นสำคัญอยู่ที่บรรยากาศในขณะนี้ว่า กัมพูชาจะมีท่าทีออกมาอย่างไร ซึ่งเราก็หวังว่า กัมพูชาจะคำนึงบรรยากาศความสัมพันธ์ที่ดี เพราะจะเป็นประโยชน์กับประชาชน 2 ฝ่าย ซึ่งไทยได้ให้ความเป็นมิตร และพยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดการกระทบของ 2 ฝ่ายมาตลอด

เมื่อถามย้ำว่า จุดสรุปของเรื่องนี้ต้องอยู่ที่กัมพูชาต้องทบทวนการแต่งตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ใช่หรือไม่ นายชวนนท์ ตอบว่า เรื่องนี้กัมพูชารู้ดีว่า ทางออกคืออะไร

ฮุนเซ็นส่งรองผบ.สส.เจรจา

วันเดียวกัน พล.ท.วีร์วลิต จรสัมฤทธิ์ แม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการลับ ลวง พราง ทางสถานีวิทยุเอฟเอ็ม 100.5 ว่า เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 6 พฤศจิกายน ได้รับการติดต่อจาก พล.อ.เจีย ดารา รอง ผบ.สส. ของกัมพูชา โดยมีการระบุว่า ได้รับคำสั่งจาก สมเด็นฮุนเซ็น นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ให้นำคณะมาพบ เพื่อหารือสถานการณ์บริเวณชายแดน โดยมีการนัดพบกันที่ชายแดนและเข้ามาหารือกันที่บริเวณผามออีแดง อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ

ฝากขอร้องไทยอย่าให้มีปะทะ

มีการพูดคุยว่า สถานการณ์ที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เป็นสถานการณ์ระหว่างรัฐบาลต่อรัฐบาล ซึ่งขณะนี้ทั้ง 2 ฝ่ายกำลังแก้ปัญหาอยู่ โดยสมเด็จฮุนเซ็นฝากบอกว่า อยากให้สถานการณ์ตามแนวชายแดนมีความสัมพันธ์อันดีต่อไป จะไม่ให้เกิดอุบัติเหตุหรือเหตุการณ์ใดในแนวพรมแดน และยืนยันจะไม่มีการเพิ่มเติมกำลัง ดังนั้นเมื่อกัมพูชาไม่เพิ่มกำลัง ทางเราก็จะไม่เพิ่มเช่นกัน

แม่ทัพภาค2เตือนอย่ายั่วยุ

พล.ท.วีร์วลิต กล่าวอีกว่า ได้ขอความร่วมมือกลับไป 2 ประเด็น คือ 1.เรื่องการให้สัมภาษณ์กับสื่อที่นำไปขยายเป็นประเด็นต่างๆ เช่น การพูดว่าหากมีคนไทยก้าวเข้าไปแม้แต่ 1 เซนติเมตร จะยิงทันที ซึ่งการพูดอย่างนี้อาจทำให้บานปลายออกไป โดย พล.อ.เจีย ดารา ได้ตอบรับปากจะกลับไปเตือนให้มีการระมัดระวัง ส่วนเรื่องที่ 2 คือ ขบวนการลักลอบตัดไม้ตามแนวชายแดน ซึ่งต้องจับมือร่วมกันในการทำลายขบวนการตัดไม้ในพื้นที่

อย่างไรก็ตาม พล.อ.วีร์วลิต ชี้ว่า การที่กัมพูชารีบส่งทหารมาเจรจาไม่ได้หมายความว่า เขาจะกลัวเรา เพราะเรายังเคารพขีดความสามารถของกันและกันอยู่ ซึ่งเขาก็ประสงค์ที่จะให้เกิดสันติภาพตลอดแนวชายแดน จึงไม่มีใครต้องการให้มีเหตุความรุนแรงไปมากกว่านี้

ถ้ารบไม่แพ้แน่แต่จะได้อะไร

เมื่อถามว่า หากไทยกับกัมพูชารบกันใครจะชนะ พล.ท.วีร์วลิต กล่าวว่า ณ เวลานี้ ตอบได้เลยว่า เราไม่แพ้ เพราะเราได้เตรียมการสิ่งต่างๆไว้แล้ว แต่เมื่อรบกันแล้ว ผลสุดท้ายที่ตามมาคืออะไร ไม่ใช่ว่า เรากลัว แต่สุดท้ายปัญหาก็ต้องกลับไปที่เดิม ดังนั้นการใช้หนทางสันติวิธีจึงดีที่สุด

เตือนคนไทยดูบทเรียนเสียกรุง

ผมอยากให้ประชาชนหันหน้าเข้ามาหากัน มีความรัก สามัคคี รวมใจเป็นหนึ่ง ขณะนี้ปัญหาของเราไม่ได้มีปัญหาภายนอกอย่างเดียว แต่มีปัญหาใหญ่อย่างอื่นด้วย ซึ่งเราไม่ได้กลัวปัญหาภายนอก แต่เรากลัวปัญหาภายใน เพราะการแตกแยก สามัคคี เป็นก๊ก เป็นเหล่า เราเคยเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 ซึ่งเหตุการณ์คล้ายๆ กับที่เป็นอยู่ขณะนี้ ผมไม่อยากให้เป็นอย่างนั้นอีก ส่วนภารกิจของทหาร เรามีหน้าที่ปกป้องอธิปไตยอยู่แล้ว ดังนั้นเรามีการเตรียมความพร้อม มีแผนตามลำดับขั้น พร้อมเสียสละชีวิตพื่อประเทศชาติได้ แต่สิ่งที่ไม่อยากเห็นคือ คนไทยรบกันเอง เราเสียชีวิตให้ข้าศึกศัตรูยังภูมิใจมากกว่า คนไทยรบราฆ่าฟันกันเอง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าว

ปชป.หนุนทบทวนเอ็มโอยู

ส่วนที่พรรคประชาธิปัตย์ นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรค แถลงว่า พรรคประชาธิปัตย์ขอสนับสนุนการดำเนินการของรัฐบาลไทย ในการใช้มาตรการทางการฑูตต่อการแทรกแซงกิจการการเมืองในประเทศไทยของรัฐบาลกัมพูชา รวมถึงการทบทวนบันทึกข้อตกลงว่าด้วยการอ้างสิทธิในหลายพื้นที่ทับซ้อนเมื่อปี พ.ศ. 2544 เพื่อเป็นการป้องกันการเสียผลประโยชน์ของชาติ

ยุยกเลิกแผนที่พระวิหาร

ขณะเดียวกันขอเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งพิจารณาปัญหาอื่นๆ ที่นอกเหนือจากเรื่องพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล เช่น กรณีประสาทพระวิหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งการยอมรับแผนที่ 1 ต่อ 2 แสน ที่รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ให้การยอมรับเอาไว้ เพราะถือเป็นจุดยืนของประเทศที่จะไม่ให้การยอมรับแผนที่ที่เป็นข้อต่อสู้ที่สำคัญของรัฐบาลกัมพูชา

เย้ยปธ.วิปฝ่ายค้านกล้าแสดงจุดยืน

ส่วนกรณีที่ นายวิทยา บูรณศิริ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) จะยืมมือของ ส.ว. 1 ใน 3 เสนอให้ซักฟอกนายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 161 โดยอ้างว่า การดำเนินการของ นายอภิสิทธิ์ และรัฐบาลขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 และ มาตรา 190 นั้น นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า หากประธานวิปฝ่ายค้านเห็นต่างกับรัฐบาล ก็ควรจะกล้าออกมาแสดงจุดยืนของตัวเอง ถ้าเห็นว่าขัดรัฐธรรมนูญ ก็เดินหน้ายื่นถอดถอนเองได้ ไม่ต้องเอา ส.ว.มาบังหน้า ใช้การอภิปรายในสภาฯเพื่อสร้างความขัดแย้งเพิ่มขึ้นมาอีก

โฆษกมาร์คตั้งแง่จิ๋วเอี่ยวประโยชน์

นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย เคยพูดชัดว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการเจรจาให้เกิดการรวมชาติและสนับสนุนสมเด็นฮุนเซ็นขึ้นมามีอำนาจในกัมพูชา ซึ่งทำให้สงสัยว่า พล.อ.ชวลิต พ.ต.ท.ทักษิณ และสมเด็จฮุนเซ็น มีความผูกพันกันทั้งทางด้านการทหาร การค้า และธุรกิจ กระทั่งมีการทำการเมืองในลักษณะต่างตอบแทนกันหรือไม่

ไล่พท.เปลี่ยนชื่อเป็นเพื่อเขมร

ส่วนกรณีพรรคเพื่อไทยออกแถลงการณ์ 12 ข้อ กล่าวหารัฐบาลไทย โดยสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ และรัฐบาลกัมพูชานั้น นายเทพไท กล่าวว่า ล้วนเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง อยากถามว่าวันนี้พรรคเพื่อไทย ยังจะใช้ชื่อพรรคเพื่อไทยอยู่อีกหรือ ถ้าดูพฤติกรรมแล้วอยากให้เปลี่ยนชื่อจากพรรคเพื่อไทยเป็นพรรค เพื่อเขมร น่าจะสอดคล้องกว่า

หัดอ่านความสัมพันธ์ระหว่างปท.

นายเทพไท ยังกล่าวถึงแถลงการณ์พรรคเพื่อไทยที่อ้างเรื่องการปฏิบัติทางการฑูตของรัฐบาลไทย 2 มาตรฐาน ไม่ยอมดำเนินการกับรัฐบาลนิการากัวร์และฮอนดูรัสที่มีการแต่งตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นที่ปรึกษาเช่นกันว่า พรรคเพื่อไทยเคยดูข้อมูลก่อนหรือไม่ว่าไทยกับประเทศเหล่านี้มีความสัมพันธ์ทางการฑูตในระดับใด มีสถานฑูตอยู่ที่นั่นหรือไม่ และมีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนหรือไม่ ขณะที่ประเทศกัมพูชาเรามีสถานฑูต มีสนธิสัญญาส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน

โต้ปลุกคลั่งชาติแต่มาจากสำนึก

ส่วนประเด็นที่ นายวีระ มุกสิกพงษ์ แกนนำเสื้อแดง กล่าวหาพรรคประชาธิปัตย์กำลังปลุกกระแสคลั่งชาติให้คนไทยนั้น นายเทพไท กล่าวว่า พรรคไม่เคยฉวยโอกาสยกเรื่องนี้มาอ้าง แต่เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นจิตสำนึกของคนไทยทุกคน ซึ่งดีกว่าคนไทยบางคนที่อยากจะขายชาติ

ผมอยากให้คนที่ออกมาโจมตีใส่ร้ายรัฐบาลและประเทศไทย กลับไปดูความรู้สึกของคนในสังคมว่า คนทั้งประเทศรู้สึกอย่างไร และมีคนฝากถามว่ากลุ่มคนที่ออกมาปกป้องรัฐบาลกัมพูชา ยังร้องเพลงชาติไทยอยู่หรือไม่ นายเทพไท กล่าว

ชายร้องทบทวนเลิกเอ็มโอยู

วันเดียวกัน นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีรัฐบาลไทยเตรียมยกเลิกบันทึกความเข้าใจระหว่างไทย-กัมพูชาว่าด้วยพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลว่า อยากขอให้รัฐบาลทบทวนเรื่องนี้อีกครั้ง เพราะจะทำให้เกิดความเสียหายแก่ประเทศ และทำให้ประชาชนเดือดร้อน

ป้องเขมรไม่ได้แทรกแซงไทย

ส่วนการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ รับตำแหน่งที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจและที่ปรึกษาส่วนตัวของสมเด็จฮุนเซ็น นั้นก็เห็นว่า จะสร้างความเสียหายให้กับประเทศไทย แต่ถือว่าเป็นเกียรติของคนไทยที่ต่างชาติให้การยอมรับ ทั้งนี้รัฐบาลควรแยกแยะ อย่าเอาความรู้สึกส่วนตัวมาเป็นประเด็นข้อขัดแข้งความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ขณะเดียวกันเห็นว่า กัมพูชาไม่ได้เข้ามาแทรกแซงกระทรวงการยุติธรรมของไทยแต่อย่างใด เพราะการตัดสินคดีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ถือว่าสิ้นสุดไปแล้ว

แม้วเตรียมแจง10พ.ย.นี้

ขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวถึงกรณีรัฐบาลกัมพูชาแต่งตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นที่ปรึกษาว่า รายละเอียดต่างๆ อยากให้ฟัง พ.ต.ท.ทักษิณ ชี้แจงผ่านรายการ ทอล์ก อะราวด์ เดอะ เวิลด์ ทาง www.thaksinlive.com และ สถานีพีเพิลชาแนล ในวันที่ 10 พฤศจิกายน ตั้งแต่เวลา 20.30 น.เป็นต้นไป

จิ๋วปิดปาก-ให้รอวันจันทร์

ด้าน พล.อ.ชวลิต นั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ชวลิต ปฏิเสธจะให้สัมภาษณ์ถึงกรณีปัญหาระหว่างรัฐบาลไทยกับกัมพูชา โดยกล่าวเพียงว่า วันนี้เป็นวันหยุด

เมื่อถามต่อว่า มองอย่างไรกับเรื่องนี้ เพราะมีคนที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พล.อ.ชวลิต ตอบว่า น่าสงสารเขานะ จากนั้นพล.อ.ชวลิตไม่ยอมตอบคำถามอะไรอีก โดยกล่าวว่า เอาไว้เจอกันวันจันทร์


ที่มา : ขอขอบคุณ หนังสือพิมพ์แนวหน้า  

แสนดีเจริญรุ่งเรือง


2009-11-09 09:45:03 203.155.220.***
stat : 291 posts , 0 replys
 

คำตอบ
 
ข้อความ
รูปแบบพิเศษ ย่อหน้า ตัวหนา ตัวยก ตัวห้อย ตัวหนังสือเรืองแสง ตัวหนังสือมีเงา ตัวเอียง เส้นใต้ สีแดง สีเขียว สีน้ำเงิน สีส้ม สีชมพู สีเทา แทรกรูปจาก internet แทรกไฟล์ youtub vdo
Emotions
ชื่อ
email
ซ่อน E-Mail
.
สมัครสมาชิก Click ที่นี่ | เข้าสู่ระบบ Click ที่นี่




User :
Pass :
ลืมรหัสผ่าน

 
 
© Copyright 2007 SIAM-SHOP.COM All Rights Reserved.