เมื่อสัปดาห์ที่แล้วนำเสนอเรื่องไข่มุกตอนเดียว ปรากฏว่ามีผู้สนใจเป็นจำนวนมาก จึงตั้งใจจะนำเสนอเรื่องไข่มุกเป็นภาคที่ 2 โดยรวบรวมไข่มุกขนาดใหญ่ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นของขวัญจากธรรมชาติอันงดงามจนได้รับการบันทึกเอาไว้ ซึ่งมีอยู่มากมายเลยทีเดียว ตั้งแต่ไข่มุกได้ถูกค้นพบและกลายเป็นอัญมณีที่มีค่า ก็เริ่มมีการเสาะแสวงหากันเพื่อนำเป็นของขวัญของกำนัลต่อผู้มีบุญหนักศักดิ์ใหญ่ เป็นเครื่องบรรณาการที่สามารถสร้างความพอใจสูงสุดต่อผู้ที่ได้รับ นับตั้งแต่การเดินเรือได้เป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย ไข่มุกทั้งที่พบในน้ำจืดและท้องทะเลเริ่มอวดโฉมเป็นที่ประจักษ์ และเริ่มมีการบันทึกถึง ขนาด สีสัน และความงามของไขมุกแต่ละเม็ด ไปจนถึงมูลค่าและระบุถึงชื่อผู้ค้นพบและครอบครอง เป็นประวัติที่น่าสนใจด้วยความเป็นมาที่มีมากว่าพันปี
|
The Albernathy Pearl ไข่มุกเม็ดนี้เป็นมุกน้ำจืด พบในหอย Odd Shaped Mussel ที่มีดาษดื่นในแม่น้ำ Tray ประเทศสกอตแลนด์ นักประดาน้ำชื่อ Bill Albernathy เป็นผู้งมได้เมื่อปี ค.ศ. 1967 เป็นไข่มุกขนาดใหญ่เพียงเม็ดเดียวที่พบในแม่น้ำนี้ เพราะหลังจากนั้นมลพิษจากบรรดาโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ได้ทำลายการเจริญเติบโตและการแพร่พันธุ์ของหอยเหล่านี้อย่างสิ้นเชิง จนปัจจุบันนี้ ไข่มุก Albernathy มีน้ำหนักถึง 44 grains เป็นมุกน้ำจืดที่งดงามที่สุดเท่าที่พบในปัจจุบันนี้ ทั้งสีขาวบริสุทธิ์และมีผิวนอกที่มีความขาวสะอาดเสมอกันทั้งเม็ด จนได้รับอีกชื่อหนึ่งว่า The White Willie Pearl และถูกซื้อไปอวดโฉมอยู่ในร้านเพชรแห่งหนึ่งในเมือง Cairncross เป็นเวลาถึง 30 ปี จากนั้นถูกจำหน่ายให้กับลูกค้านิรนามเมื่อปีค.ศ. 1992 ในราคาที่ไม่เปิดเผย พร้อมกับข่าวคราวที่เงียบหายไปจนบัดนี้ The Big Pink Pearl ไข่มุกสีชมพูเม็ดนี้ ถูกบันทึกไว้ในหนังสือ Guiness Book ว่าเป็นไข่มุกสีชมพูที่ได้จากหอย Abalone ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยน้ำหนักถึง 470 กะรัต เจ้าของคือ Wesley Rankin พบในหอยขณะที่ดำน้ำอยู่ใน Californias Salt Point State Park ที่ Peteluma เมื่อปีค.ศ. 1990 ลักษณะเป็นไข่มุกเบี้ยวที่เรียกว่า Baroque Pearl มูลค่าเมื่อปีค.ศ.1991 อยู่ที่ 4,7 ล้านเหรียญอเมริกัน
|
The Gogibus Pearl เป็นไข่มุกทรงลูกแพร์ที่ใหญ่ที่สุดที่พบมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 พบที่ชายฝั่งทะเลบริเวณหมู่เกาะ West Indies หนัก 126 กะรัต กล่าวกันว่ากษัตริย์ ฟิลิปที่ 2 ทรงขอซื้อไข่มุกเม็ดนี้มาจากนายวาณิชนาม Gogibus ที่ประดับไข่มุกเม็ดนี้โดดๆ ไว้บนหน้าหมวกของเขาและงามเย้ายวนเป็นที่ยิ่ง The Hope Pearl ไข่มุกจากท้องทะเลที่มีชื่อเสียงที่สุดเม็ดหนึ่งของโลก มีน้ำหนักถึง 450 กะรัตหรือน้ำหนักเกือบ 4 ออนซ์ เป็นไข่มุกรูปหยดน้ำขนาด 2 X 4 นิ้ว พิเศษเพียงเม็ดเดียวในโลกตรงที่มีสีเหลือบจากเขียวแกมทองไล่สีไปจนถึงสีขาวนวลอีกด้านหนึ่ง ไข่มุกเม็ดนี้เคยเป็นสมบัติของ Henry Philipe Hope ผู้เคยเป็นเจ้าของเพชรสีน้ำเงิน Hope เม็ดที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก ปัจจุบันอยู่ที่ the Smithsonian Institution La Huerfana เป็นไข่มุกที่เคยประดับอยู่บนมหามงกุฎแห่งสเปน เป็นไข่มุกจากทะเล พบในอ่าวปานามา มีทั้งรูปทรงและสีสันที่สวยงามไร้ตำหนิ ขาวบริสุทธิ์และมีเคลือบผิวที่วาววามเป็นพิเศษ เคยเป็นของ Dona Isabel de Bobadilla ผู้สำเร็จราชการสตรีแห่งคิวบาคนแรก เป็นที่น่าเสียดายว่าไข่มุกเม็ดนี้ ปัจจุบันคงชมได้เพียงแต่ในภาพเขียนเท่านั้น เพราะสูญหายไปในกองเพลิงที่เผาไหม้พระราชวังเมื่อศตวรรษที่ 18 อย่างไร้ร่องรอย
|
La Peregina เป็นไข่มุกของกษัตริย์ ฟิลิปที่ 2 มีน้ำหนัก 203.8 grains มีความงามไร้ที่ติอีกเม็ดหนึ่งในโลก ขาวบริสุทธิ์สว่าง พบที่อ่าวปานามาในศตวรรษที่ 16 และถูกนำถวายต่อกษัตริย์พระองค์นี้เพื่อเป็นของขวัญพระราชทานแด่พระมเหสีพระองค์ใหม่ พระราชินีแมรี่ และต่อมาได้ตกทอดมาถึงพระราชินี มาร์กาเร็ตและ กษัตริย์ โจเชฟ โบนาปาร์ต พระเชษฐาของจักรพรรดินโปเลียน ที่ 3 แห่งฝรั่งเศส จากนั้นตกมาอยู่ในมือของ Marquis of Abercorn ขุนนางชาวอังกฤษ ในปี ค.ศ.1969 ไข่มุกเม็ดนี้ถูกนำออกประมูล ผู้ซื้อไปคือ ริชาร์ด เบอร์ตัน ด้วยเงินเพียง 37,000 เหรียญอเมริกันเท่านั้น และเป็นของขวัญในวันวาเลนไทน์ให้กับ อลิซาเบธ เทย์เลอร์ เมื่อปี 1969 และไข่มุกเม็ดนี้ถูกส่งไปทำสร้อยคอที่ล้อมด้วยทับทิมและเพชร จนเป็นที่กล่าวขวัญไปทั่วโลก และทำให้ South Sea Pearl กลายเป็นที่นิยมคลั่งไคล้ไปทั่วโลกนับแต่บัดนั้น La Reine De Pearls เป็นไข่มุกน้ำจืดเม็ดกลมขนาด 27.5 กะรัต เป็นไข่มุกที่เคยประดับบนมหามงกุฎแห่งฝรั่งเศสในปีค.ศ. 1791 และถูกนำไปเก็บไว้ในท้องพระคลัง Garde de Meuble หลังจากนั้นเพียงปีเดียว ทรัพย์สมบัติทั้งหมดก็ถูกขโมยออกไปจากคลังจนหมดสิ้น กลายเป็นเรื่องเล่าลือที่เล่าขานไม่รู้จบจนบัดนี้ ที่กล่าวมานี้เป็นเพียงส่วนน้อยในบรรดาไข่มุกเม็ดงามบนโลกหล้าที่ได้รับการกล่าวขานถึงความงดงามอลังการ |