ฟรี ร้านค้า ออนไลน์ 18.226.251.22 : 26-04-24 17:58:59   
หน้าแรก siam-shop.com ค้นหาร้านค้าสมาชิก
ชื่อสินค้า  
    หมวดสินค้าของเรา            
  
 
Notebook
กระเป๋า
กล้องถ่ายรูป
กวดวิชา ติวเตอร์ ฝึกอบรม
การเกษตร
การเงิน&บัญชี
ก่อสร้าง
ของที่ระลึกจากภาพยนตร์
ความงามและสุขภาพ
คอมพิวเตอร์
จตุคาม
จักรยาน&จักรยานยนต์
ตกแต่ง ซ่อมแซม
ตั๋ว&บัตร
ตุ๊กตา&ของเล่น
ที่ดิน
ที่พัก โรงแรม รีสอร์ท
ท่องเที่ยว
ธนบัตร&เหรียญ ของสะสม
นวนิยาย
บริการถ่ายภาพ
บ้าน
ประกันภัย&ประกันชีวิต
พระ
รถ รถตู้ให้เช่า
รถยนต์ ประดับยนต์
ล้อแม็กรถยนต์
วัตถุมงคล
สัตว์เลี้ยง
สำนักงาน
สินค้า หรือ บริการทั่วไป
หนังสือ
หนังสือการ์ตูน
หนังสือคอมฯ
หนังสือออกใหม่
ห้องซ้อมดนตรี
ห้องพัก หอพัก
อาคารชุด
อาคารพานิชย์
อินเตอร์เนต
อุปกรณ์ เครื่องเขียน แบบเรียน
อุปกรณ์กีฬา
อุปกรณ์ต่อพ่วงคอมพิวเตอร์
อุปกรณ์และของใช้ในบ้าน
เกมส์
เครื่องดนตรี กีตาร์ กลอง
เครื่องดนตรี คีย์บอร์ด เปียนโน
เครื่องถ่ายเอกสาร
เครื่องประดับ
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย
โชว์ การแสดง
โต๊ะ เก้าอี้
โทรศัพท์&อุปกรณ์เสริม
โทรสาร
โน๊ตเพลง

  สปอนเซอร์ของเรา
   
   
   

แฉกลุ่ม นศ.นำม็อบยึดมัสยิดบีบถอนทหารยกเลิกเคอร์ฟิว  

 
แฉกลุ่ม นศ.นำม็อบยึดมัสยิดบีบถอนทหารยกเลิกเคอร์ฟิว
 
แฉกลุ่ม นศ.นำม็อบยึดมัสยิด บีบถอนทหารยกเลิกเคอร์ฟิว
โดย ผู้จัดการรายวัน 1 มิถุนายน 2550 23:14 น.
       แฉกลุ่มนักศึกษา"พีเอ็นวายเอส" เป็นแกนนำหลักก่อม็อบชาวมุสลิมและนักศึกษาชุมนุมยึดมัสยิดกลางปัตตานี บีบเจ้าหน้าที่ถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่-ยกเลิกเคอร์ฟิว-พ.ร.บ.ฉุกเฉิน จนท.ตรึงกำลังเข้ม ปิดสัญญาณมือถือหวั่นมือที่สามฉวยโอกาส นายกฯ อศ.รม.รับมี นศ.รามสายมุสลิมร่วมชุมนุมจริง 2 รถบัส "ผู้บริหาร มอ.ปัตตานี" แจงนักศึกษาที่ร่วมเคลื่อนไหวไม่ได้ทำในนามสถาบัน ด้าน "สุรยุทธ์" ยอมรับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบยังมีอิทธิพลก่อเหตุความไม่สงบรายวัน ขณะที่การทำงานของรัฐต้องอดทนและอยู่บนพื้นฐานของกฎหมาย มท.1 ระบุเหตุบึ้มทหาร 11 ศพ เป็นความพยายามที่จะสร้างสถานการณ์ให้เกิดความรุนแรงมากยิ่งขึ้น พร้อมยืนยันรัฐบาลจะไม่สลายม็อบที่ยึดมัสยิดแบบกรือเซะ
       

       ตั้งแต่เช้าวานนี้ (1 มิ.ย.) กลุ่มผู้ชุมนุมชาวไทยมุสลิมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่อ้างตัวในนามศูนย์ประสานงานเครือข่ายนักศึกษาและประชาชนหลายร้อยคน ซึ่งประกอบด้วย สมาคมนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง กลุ่มนักกิจกรรมรามคำแหงเพื่อสังคม เครือข่ายประชาชนจังหวัดชายแดนภาคใต้ ศูนย์ประสานงานเครือข่ายนักศึกษาและประชาชน เครือข่ายนิสิตนักศึกษาไทยมุสลิม องค์กรนักศึกษามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี สภานักศึกษามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี และเครือข่ายนักศึกษาเพื่อสันติภาพ ยังคงปักหลักยึดบริเวณหน้ามัสยิดกลางปัตตานีเป็นวันที่สอง และเดินทางมาร่วมมากขึ้นเรื่อยๆ โดยส่วนใหญ่จะใช้ผ้าสีดำปิดใบหน้า ทั้งนี้ คาดว่าการชุมนุมจะยังคงยืดเยื้อต่อไป เพราะได้มีการเตรียมข้าวสาร อาหารแห้ง และน้ำดื่มติดตัวมาด้วย
       
       โดยกลุ่มผู้ชุมนุมได้เปิดเวทีกล่าวปราศรัยโจมตีนโยบายการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ของรัฐบาลอย่างรุนแรง ขณะที่ตำรวจ ทหาร ยังตรึงกำลังดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด พร้อมกับปิดถนนสายยะรัง และถนนสายกะลาพอ ส่งผลให้ร้านค้าต่างๆ ต้องปิดทำการเป็นวันที่สองสร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้ประกอบการอย่างมาก ส่วนเส้นทางรอบนอก เจ้าหน้าที่ได้ตั้งจุดตรวจสกัดเพื่อป้องกันกลุ่มแนวร่วมที่จะเข้ามารวมตัวเพิ่มเติม และมีการตัดสัญญาณโทรศัพท์มือถือทุกระบบในพื้นที่เพื่อป้องกันเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้น
       
       ขณะเดียวกัน ตรงบริเวณหน้ามัสยิดกลางปัตตานีได้มีกลุ่มผู้ชุมนุมประมาณ 6-7 คน เฝ้าประตูทางเข้ามัสยิดเพื่อตรวจสอบผู้ที่จะเดินทางเข้ามาละหมาดใหญ่วันศุกร์และไม่ให้ผู้ที่เดินทางเข้าไปละหมาด นำรถเข้าไปภายในมัสยิด ทำให้ผู้ที่จะเดินทางมาประกอบศาสนกิจไม่ได้รับความสะดวก โดยตามปกติแล้วในวันศุกร์จะมีประชาชนเดินทางมาละหมาดใหญ่ ณ มัสยิดกลางจังหวัดปัตตานีแห่งนี้เป็นจำนวนมาก แต่เนื่องจากไม่มั่นใจในสถานการณ์ ทำให้ในวันนี้มีประชาชนเดินทางมาละหมาดกันค่อนข้างบางตา
       
       **แฉ นศ.พีเอ็นวายเอส เป็นแกน
       

       ทั้งนี้ กลุ่มผู้ชุมนุมได้ยื่นข้อเรียกร้อง 10 ข้อคือ 1.ให้ถอนกำลังทหารและอาสาสมัครทหารพรานออกจากพื้นที่ทั้งหมด 2.ให้ยกเลิกประกาศเคอร์ฟิว 3.ให้ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 4.ให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ที่กระทำผิดอย่างเด็ดขาดและเที่ยงธรรม 5.ให้รัฐชี้แจงข้อมูลข่าวสารอย่างถูกต้องและเที่ยงตรง 6.ให้รัฐยุติการครอบงำสื่อทุกชนิด 7.ให้สื่อรายงานความเป็นจริงอย่างตรงไปตรงมา 8.ให้รัฐปล่อยตัวผู้บริสุทธิ์โดยเร็วและไม่มีเงื่อนไขใด ๆ 9.ให้รัฐไม่จับตัวผู้บริสุทธิ์อีก และ 10.ให้รัฐบาลเปิดโอกาสให้ประชาชนแสดงความคิดเห็นอย่างเปิดเผย
       
       รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับกลุ่มนักศึกษาดังกล่าว ซึ่งเป็นเครือข่ายที่ร่วมเคลื่อนไหวชุมนุมในครั้งนี้มีแกนหลักมาจากกลุ่มนักศึกษา "พีเอ็นวายเอส" (ปัตตานี นราธิวาส ยะลา สตูล) ซึ่งเป็นกลุ่มกิจกรรมของนักศึกษารามคำแหงที่มีสมาชิกเป็นนักศึกษาที่มีภูมิลำเนาในพื้นที่ลงมาจัดชุมนุม โดยประสานกับองค์กรนักศึกษาบางแห่งในรั้วรามคำแหงและนักศึกษาบางส่วนในพื้นที่ภาคใต้ โดยกลุ่มแกนที่ยังคงกุมสภาพการชุมนุมอยู่ในขณะนี้ คือ นักศึกษาจากกลุ่ม "พิเอ็นวายเอส"
       
       **มอ.ยันไม่ได้ม็อบในนามสถาบัน
       

       ขณะที่นายภาณุ อุทัยรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ชี้แจงผ่านสถานีวิทยุกระจายเสียงถึงการชุมนุมในครั้งนี้ว่า สถานการณ์เริ่มคลี่คลายลงแล้ว แต่ยังไม่ยุติ โดยมีผู้ชุมนุมส่วนใหญ่ได้เดินทางกลับแล้วหลังได้รับการชี้แจงว่า ถูกหลอกให้มาร่วมชุมนุม แต่ก็ยังมีผู้ชุมนุมบางส่วนซึ่งเป็นคนนอกพื้นที่ยังคงปักหลักชุมนุมอยู่ภายในมัสยิด ซึ่งทางจังหวัดได้แจ้งไปยังกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายให้ทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่เพื่อป้องกันการถูกหลอกลวงให้มาเข้าร่วมชุมนุม
       
       ส่วนกรณีที่มีการแอบอ้างนักศึกษามาร่วมชุมนุมด้วยนั้นนายภาณุ เปิดเผยว่า ได้ร่วมหารือกับผู้บริหารมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี (มอ.ปัตตานี) ถึงกรณีที่กลุ่มผู้ชุมนุมมีการแอบอ้างชื่อ และมีนักศึกษาของ มอ.ปัตตานี บางคนเข้าร่วมการชุมนุมที่มัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี ซึ่งผู้บริหาร มอ.ปัตตานี ได้สอบถามไปยังองค์กรนักศึกษาแล้วพบว่า การที่นักศึกษาบางคนเข้าร่วมการชุมนุมครั้งนี้ ไม่ได้ดำเนินการในนามสถาบันแต่เป็นการดำเนินการโดยส่วนตัวเท่านั้น
       
       ขณะที่ทางผู้บริหาร มอ.ปัตตานี ออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณีผู้แอบอ้างชื่อองค์กรนักศึกษา ในการชุมนุมประท้วง โดยระบุว่า ตามที่ได้มีกลุ่มผู้ชุมนุมบริเวณมัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี ตั้งแต่วันที่ 31 พ.ค.โดยอ้างชื่อองค์กรนักศึกษาหลายสถาบันว่าเป็นผู้สนับสนุนการชุมนุมนั้น มอ.ปัตตานี ขอชี้แจงว่า องค์กรนักศึกษา มอ.ปัตตานีไม่ว่า สโมสรคณะต่างๆ สภานักศึกษา หรือองค์การบริหารองค์การนักศึกษาไม่ได้มีส่วนร่วมในการชุมนุมตามข้อกล่าวอ้างดังกล่าวแต่อย่างใด มอ.ปัตตานี ขอให้ประชาชน บุคลากรและนักศึกษา อย่าได้หลงเชื่อคำกล่าวอ้างของกลุ่มผู้ชุมนุม
       
       **อศ.มร.ยอมรับ นศ.ร่วมชุมนุมจริง
       

       นายสิกขนันท์ หนูเล็ก นายกองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง (อศ.มร.) กล่าวถึงเหตุการณ์การชุมนุมที่มัสยิดกลางปัตตานี โดยมีชื่อของนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหงเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยว่า ยอมรับว่ามีนักศึกษารามลงไปในพื้นที่ จ.ปัตตานีจริง ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มนักศึกษาที่นับถือศาสนาอิสลาม ซึ่งตนได้สอบถามเหตุผลของการเคลื่อนไหวครั้งนี้ด้วยได้รับการชี้แจงว่า สถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น จึงควรเข้าไปร่วมกันแก้ไขสถานการณ์ อีกทั้งมีทหารพรานทำร้าย และข่มขืนผู้หญิงในพื้นที่ จึงต้องการเรียกร้องกดดันให้ถอนกำลังทหารพรานออกจากพื้นที่ และชักชวนให้ตนร่วมเดินทางไปดูสถานการณ์ครั้งนี้ด้วย
       
       "หลังจากพูดคุยกัน ผมก็ถามว่ามีหลักฐานหรือเปล่า เพราะเรื่องนี้ควรจะจัดการเป็นรายบุคคล และผมไม่เห็นด้วยที่จะให้ถอนกำลังทหารพรานออก เพราะสถานการณ์ยังไม่น่าไว้วางใจ จึงปฏิเสธที่จะเดินทางไปร่วมเคลื่อนไหวด้วย แต่ทราบว่ามีนักศึกษาเดินทางไปที่ปัตตานีประมาณ 2 คันรถบัส โดยมีแกนนำ 2 คน การที่มีชื่อว่าองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง เข้าไปเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นั้น คงเป็นการสื่อสารที่เข้าใจผิด เพราะผมไม่ได้เข้าร่วมด้วย และการเดินทางไปของนักศึกษาไม่ได้ไปในนามของมหาวิทยาลัยรามฯ" นายสิกขนันท์ กล่าว
       
       อย่างไรก็ตาม แม้จะมีนักศึกษารามเข้าร่วมจริง แต่ยังเชื่อว่า กลุ่มนักศึกษาไม่ได้ต้องการให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้น หรืออาจจะไม่ใช่ผู้ก่อเหตุในการยึดมัสยิด เพียงแต่อาจจะลงชื่อในใบปลิวและนำไปแจกเท่านั้น ซึ่งในวันนี้ (2)ตนพร้อมด้วยกลุ่มนิสิตนักศึกษากิจกรรมเพื่อสังคมรามคำแหงจะแถลงข่าวร่วมกันที่ อศ.มร.ในเวลา 13.00 น.โดยประเด็นที่จะแถลงมี 1. เหตุการณ์ในพื้นที่ภาคใต้ที่มีชื่อของ อศ.มร.เข้าไปเกี่ยวข้อง 2. กระแสข่าวเรื่องจะมีกลุ่มการเมืองมายึด มร.เป็นที่มั่นสุดท้ายในการก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง และ 3. จุดยืนของนักศึกษา มร.ในการทำกิจกรรมนักศึกษาท่ามกลางสถานการณ์บ้านเมืองปัจจุบัน
       
       ด้านนายคิม ไชยแสงสุข อธิการบดีหมาวิทยาลัยรามคำแหง กล่าวยอมรับว่า มีนักศึกษา มร. ลงไปในพื้นที่จริง ซึ่งเป็นเพียงบางส่วนเท่านั้น ซึ่งตนได้พยายามทำความเข้าใจกับนักศึกษามาตลอดว่า กิจกรรมใดที่เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองก็ให้ทำได้ แต่สิ่งใดที่อาจจะส่งผลเสียหายต่อบ้านเมืองก็ให้ระมัดระวัง และพินิจพิเคราะห์ให้ดี
       
       **"อังคณา"ชี้ปมฆ่า ปชช.ปลุกม็อบ
       

       นางอังคณา นีละไพจิตร ประธานคณะทำงานยุติธรรมเพื่อสันติภาพ กล่าวว่า ปัญหาจริงของการเกิดการชุมนุมครั้งนี้ คือ การที่กลุ่มผู้ชุมนุมเรียกร้องความยุติธรรม โดยเห็นได้จากข้อเรียกร้องจากแถลงการณ์ 10 ข้อ มีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรม 5 ข้อ ประเด็นสำคัญอยู่ที่ว่ากลุ่มผู้ชุมนุมเห็นว่าเหตุการณ์หลายเหตุการณ์มีเจ้าหน้าที่เป็นผู้ที่ก่อเหตุรุนแรงต่อชาวบ้าน แต่แทนที่เจ้าหน้าที่จะสืบสวนข้อเท็จจริงเพื่อให้ความจริงกระจ่าง กลับระบุเพียงว่าเป็นฝีมือของคนร้ายที่แต่งตัวเหมือนทหาร ทั้งๆ ที่เจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติเหล่านี้ไม่มีสิทธิที่จะบอกว่า อะไรจริง ไม่จริง เพราะเจ้าหน้าที่เหล่านี้ไม่ใช่ศาล เรื่องทั้งหมดต้องใช้กระบวนการยุติธรรม
       
       นายอังคณา ระบุด้วยว่า สำหรับการชุมนุมในครั้งนี้ตนยังไม่มีกำหนดการจะลงพื้นที่เพื่อเป็นตัวกลางในการเจรจาเหมือนการชุมนุมหลายครั้งที่ผ่านมา แต่ในเบื้องต้นทางคณะทำงานยุติธรรมฯ จะทำหน้าที่ในการสอบข้อเท็จจริงในเหตุการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้น
       
       **นายกฯรับกลุ่มป่วนยังมีอิทธิพล
       

       ด้าน พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ รับที่จะดูรายละเอียดเกี่ยวกับปัญหาเหตุความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่ภาคใต้ ที่มีเจ้าหน้าที่และประชาชนเสียชีวิตหลายราย โดยยอมรับว่า บางพื้นที่กลุ่มก่อความไม่สงบยังมีอิทธิพลและสามารถก่อเหตุได้ เพราะยังไม่สามารถดึงพลังมวลชนมาเป็นฝ่ายรัฐได้ทั้งหมด เนื่องจากใครที่มาให้ความร่วมมือกับรัฐก็จะมีปัญหา ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังควบคุมสถานการณ์ได้และยังได้รับความร่วมมือจากประชาชน
       
       ส่วนกรณีเครือข่ายนักศึกษาจังหวัดปัตตานีออกมาเคลื่อนไหวนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. ในฐานะประธาน คมช. กำลังติดตามและประสานกับผู้นำศาสนาและเจรจาอยู่
       
       ขณะที่นายอารีย์ วงศ์อารยะ รมว.มหาดไทย กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับรายงานถึงเหตุการณ์กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ลอบวางระเบิดจนเป็นเหตุให้ทหารพรานเสียชีวิต 11 นายแล้ว โดยเป็นความพยายามของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบที่พยายามสร้างสถานการณ์ให้เกิดความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่เองก็ระมัดระวัง แต่ก็ยังพลาดได้โดยทางกระทรวงมหาดไทยจะนำกำลังรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านเข้าไปเสริมเจ้าหน้าที่ที่ขาดแคลนในพื้นที่
       
       ส่วนที่มีการอ้างเป็นเครือข่ายนักศึกษาและประชาชนชุมนุมที่มัสยิดกลางปัตตานีนั้น นายอารีย์ กล่าวว่า คงเป็นการสร้างความกดดันต่างๆ ซึ่งอยากบอกว่าจะทำอะไรก็ทำ แต่ขอให้อยู่ภายใต้กฎหมายและระเบียบให้ถูกต้อง แต่ยืนยันว่ารัฐบาลจะไม่มีการสลายการชุมนุมแบบเหตุการณ์ที่กรือเซะแน่นอน แต่รัฐบาลจะดูแลด้วยความระมัดระวัง โดยให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
       
       **แฉคนร้ายโหดบึ้มทหาร 11 ศพ
       

       ทางด้าน พล.ต.ต.ไพฑูรย์ ชูชัยยะ ผบก.ภ.จว.ยะลา พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารและชุดพิสูจน์หลักฐานกองวิทยาการเขต 45 ยะลา ได้เดินทางเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุทหารพรานถูกคนร้ายลอบวางระเบิด ขณะกำลังเดินทางกลับฐานจนเสียชีวิตรวม 11 นาย สาหัส 1 นาย โดยเหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 31 พ.ค. ที่บ้านทำนบ ม.5 ต.ตาเนาะปูเต๊ะ อ.บันนังสตา ที่บนถนนสาย 410 เขตรอยต่อระหว่าง อ.กรงปินัง กับ อ.บันนังสตา โดยพบรถยนต์กระบะเชฟโรเรต สีดำของเจ้าหน้าที่โดนระเบิดอยู่ในสภาพพังยับทั้งคัน นอกจากนี้ยังพบหลักฐานอีกหลายอย่าง
       
       เบื้องต้นพบว่ากลุ่มคนร้ายที่ลงมือสังหารโหดทหารพรานครั้งนี้ มีไม่ต่ำกว่า 10 คนและมีการวางแผนเพื่อลอบสังหารเจ้าหน้าที่มาเป็นอย่างดี โดยพบว่าหลังจากทหารพรานที่นั่งมาในรถยนต์โดนระเบิดแล้วกลุ่มคนร้ายที่มีไม่ต่ำกว่า 10 ได้ใช้อาวุธปืนจ่อยิงศีรษะเจ้าหน้าที่จนเสียชีวิต ซึ่งเจ้าหน้าที่บางรายที่เสียชีวิตถูกคนร้ายใช้มีดปาดคอ ฟันศีรษะ และยิงซ้ำ นอกจากนี้ยังหยิบอาวุธปืนของเจ้าหน้าที่ไปด้วย 8 กระบอก
       
       ด้านเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายใน อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ทั้งฝ่ายปกครอง ตำรวจ และชุด ฉก.เฝ้าจับตาความเคลื่อนไหวในพื้นที่บ้านคอลอมุดอ ม.1 ต.จะแหน อย่างใกล้ชิดภายหลังเกิดเหตุคนร้ายลอบยิงชาวบ้านเสียชีวิตต่อเนื่องเพราะเกรงว่าอาจจะมีแกนนำกลุ่มก่อความไม่สงบเข้าไปปลุกระดมชาวบ้านให้เชื่อว่าเป็นฝีมือของเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อรวมตัวประท้วงอย่างที่เคยเกิดขึ้นที่บ้านควนหรัน ม.2 ต.เปียน อ.สะบ้าย้อย ซึ่งมีพื้นที่เชื่อมต่อกัน แต่ขณะนี้ยังไม่มีท่าทีของความเคลื่อนไหวใด
       
       **โจรใต้ก่อเหตุป่วนนราฯ 25 จุด
       

       ส่วนในพื้นที่ จ.นราธิวาส เมื่อตั้งแต่เวลา 06.00-09.00 น.วานนี้ โดยคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวนก่อเหตุร้ายในพื้นที่ รวม 25 จุด โดยก่อเหตุที่ อ.ระแงะ จำนวน 6 จุด ประกอบด้วย จุดที่ 1 บริเวณพื้นที่ บ.กาลิ ซา ม.2ต.กาลิซา จุดที่ 2 บ.บาตูบือซา ม.6 ต.บาโงสะโต จุดที่ 3 บริเวณพื้นที่ บ.ปา เซ ต.กาลิซา จุดที่ 4 บริเวณพื้นที่ บ.ตะ โล๊ะ ม.1 ต.ตันหยงลิมอ จุดที่ 5 บริเวณพื้นที่สามแยก บ้านปูลาไซร์ ม.8 ต..ตันหยงมัส และจุดที่ 6 บริเวณพื้นที่ เทศบาล มะรือโบตก - สามแยก บ.กูแบบาเดาะ ม.7 ต.มะรือโบตก ซึ่งส่วนใหญ่ เป็นการใช้ สีสเปรย์พ่นบน พื้นถนนข้อความว่า ( PATANIMERDAKA ) , ฉีกธงชาติเป็นชิ้นเล็กๆ , โปรยตะปูเรือ ใบตามถนนเป็นบริเวณกว้าง และแขวนป้ายข้อความโจมตีการปฏิบัติ งานของเจ้าหน้าที่รัฐ และทิ้งกล่องกระดาษ ที่บรรจุก้อนหินไว้ริมถนน เพื่อให้เข้าใจผิดคิดว่าเป็นระเบิด
       
       ส่วนในพื้นที่ อ.รือเสาะ พบวัตถุต้องสงสัยบริเวณถนนบ้านสโลว์ หมู่ 7-บ้านบูกิตยือแร หมู่ 9 อ.รือเสาะ ทั้งหมด 6 จุด ตรวจสอบพบเป็นระเบิดปลอม ลักษณะกล่องกระดาษและก้อนหิน
       
       พื้นที่ อ.เจาะไอร้อง คนร้ายก่อเหตุจำนวน 10 จุด ได้แก่ จุดที่ 8 บริเวณ หมู่ 5 บ้านสะเดียร์ ต.บูกิต จุดที่ 9 บริเวณ หมู่ 4 ต.กูเว ต.บูกิต จุดที่ 10 บริเวณ หมู่ 4 ต.บูกิต จุดที่ 11 บริเวณ ม.1 บ.เจาะเกาะ ต.บูกิต จุดที่ 12 บริเวณ ม.1 บ.เจาะเกาะ ต.บูกิต จุดที่ 13 บริเวณ ม.2 บ.บูเก๊ะ ต.บูกิต จุดที่ 14 บริเวณ ม.7 บ.บูเก๊ะตาโมง ต.บูกิต จุดที่ 15 บริเวณ ม.10 บ.กำปงบารู ต.บูกิต จุดที่ 16 บริเวณ ม.6 บ.บาตาปาเซ ต.บูกิต จุดที่ 17 บริเวณ ม.10 บ.ปิแนมูดอ ต.บูกิต จุดที่ 18 บริเวณ หน้าโรงเรียนบ้านปิแนมูดอ ม.10 บ.ปิแนมูดอ ต.บูกิต จุดที่ 19 บริเวณโรงเรียนไอบาตู ม.4 ต.โต๊ะเด็ง จุดที่ 20 บริเวณ บนถนนเส้นทางหมายเลข 4056 ต.โต๊ะเด็ง จุดที่ 21 บริเวณโรงเรียนบ้านบือราแง ม.3 ต.โต๊ะเด็ง โดยส่วนใหญ่ ใช้สีสเปรย์พ่นข้อความบนถนนในหมู่บ้าน หรือบนผืนผ้า แล้วแขวนไว้ตามต้นไม้ ด้วยข้อความ “KAFIR SIAM ZALIM” ซึ่งหมายถึง “พวกนอกศาสนาเมืองสยาม โหดร้ายทารุณ” บางแห่งมีข้อความ “ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มลายูฟาตอนี 300 กว่าคน ที่ตากใบ" " กราดยิงเยาวชนมือเปล่าที่กรือเซะ" "ทหารพรานฆ่าคนมลายู และคนบริสุทธิ์" เป็นต้น
       
       ส่วนในพื้นที่ อ.สุไหงโกลก เกิดเหตุ 2 จุด ได้แก่ จุดที่ 22 บริเวณ หน้าวิทยาลัยการอาชีพสุไหงโก-ลก จุดที่ 23 บริเวณ สามแยกโรงพยาบาลสุไหงโก-ลก พบวัตถุต้องสงสัย ตรวจสอบเป็นระเบิดปลอม
       
       ใน พื้นที่ อ.ยี่งอ 1 จุด ได้แก่ จุดที่ 24 พบใบปลิว บริเวณ ม.5 บ้านกูยิ ต.ตะปอเยาะ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส ซึ่งมีข้อความเขียนบนแผ่นผ้า โจมตีปฏิบัติการของ ทหารพราน และกล่าวหาว่าฆ่าผู้บริสุทธิ์ และจุดที่ 25 ในพื้นที่ อ.ตากใบ พบวัตถุต้องสงสัยบริเวณหัวสะพานโคกยาง ม.5 ต.พร่อนจำนวน 1 จุดจากการตรวจสอบแล้วเป็นของปลอม
       
       ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เชื่อว่า กรณีเหตุการณ์ที่คนร้ายออกมาเคลื่อนไหวก่อเหตุในช่วงนี้ เป็นการสร้างสถานการณ์ป่วนใต้ในพื้นที่ และแสดงศักยภาพวันคล้ายสถาปนารัฐปัตตานี ในวันที่ 15 มิ.ย.50 นี้ ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวานนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้ตัดสัญญาณโทรศัพท์มือถือในพื้นที่ เพื่อตรวจสอบเหตุที่เกิดขึ้นอย่างรอบคอบ ทำให้ประชาชนจำนวนมากไม่สามารถติดต่อกันได้

   
   
 
 
แสดงความเห็นต่อบทความนี้
User :
Pass :
ลืมรหัสผ่าน

 
 
© Copyright 2007 SIAM-SHOP.COM All Rights Reserved.