ฟรี ร้านค้า ออนไลน์ 54.159.116.24 : 29-03-24 11:57:04   
หน้าแรก siam-shop.com ค้นหาร้านค้าสมาชิก
ชื่อสินค้า  
    หมวดสินค้าของเรา            
  
 
Notebook
กระเป๋า
กล้องถ่ายรูป
กวดวิชา ติวเตอร์ ฝึกอบรม
การเกษตร
การเงิน&บัญชี
ก่อสร้าง
ของที่ระลึกจากภาพยนตร์
ความงามและสุขภาพ
คอมพิวเตอร์
จตุคาม
จักรยาน&จักรยานยนต์
ตกแต่ง ซ่อมแซม
ตั๋ว&บัตร
ตุ๊กตา&ของเล่น
ที่ดิน
ที่พัก โรงแรม รีสอร์ท
ท่องเที่ยว
ธนบัตร&เหรียญ ของสะสม
นวนิยาย
บริการถ่ายภาพ
บ้าน
ประกันภัย&ประกันชีวิต
พระ
รถ รถตู้ให้เช่า
รถยนต์ ประดับยนต์
ล้อแม็กรถยนต์
วัตถุมงคล
สัตว์เลี้ยง
สำนักงาน
สินค้า หรือ บริการทั่วไป
หนังสือ
หนังสือการ์ตูน
หนังสือคอมฯ
หนังสือออกใหม่
ห้องซ้อมดนตรี
ห้องพัก หอพัก
อาคารชุด
อาคารพานิชย์
อินเตอร์เนต
อุปกรณ์ เครื่องเขียน แบบเรียน
อุปกรณ์กีฬา
อุปกรณ์ต่อพ่วงคอมพิวเตอร์
อุปกรณ์และของใช้ในบ้าน
เกมส์
เครื่องดนตรี กีตาร์ กลอง
เครื่องดนตรี คีย์บอร์ด เปียนโน
เครื่องถ่ายเอกสาร
เครื่องประดับ
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย
โชว์ การแสดง
โต๊ะ เก้าอี้
โทรศัพท์&อุปกรณ์เสริม
โทรสาร
โน๊ตเพลง

  สปอนเซอร์ของเรา
   
   
   

24"Ince ทำไมจึงลดน้ำหนักได้ ?  

 
24"Ince ทำไมจึงลดน้ำหนักได้ ?
 

เพราะ 24"Ince
รายละเอียด: ระบบการทำงานในการลดไขมันส่วนเกิน
1. ลดการดูดซึมของไขมันและลดการสร้างไขมันใหม่
2. ช่วยเร่งการเผาผลาญไขมันเก่าให้เป็นพลังงาน (ไขมันหน้าท้อง,ต้นแขน,ต้นขาลด เสริมสร้างกล้ามเนื้อ)
3. ขับไขมันส่วนเกิน (น้ำหนักตัวลดลง)
4. ฟื้นฟู,ป้องกัน,บรรเทา,บำรุงร่างกาย,เพิ่มสารอาหาร วิตามิน เกลือแร่ และแร่ธาตุต่างๆ (ร่างกายแข็งแรง สด ชื่น ชลอความแก่)
24”Ince แคปซูล
ส่วนประกอบสำคัญ
สารสกัดจากส้มแขก, แอล-ออร์นิทีน ,แอล-ไลซีน ,แอล-อาร์จินีน ,
สาหร่ายเคลป์,สารสกัดจากมะขามป้อม ,วิตามิน ซี ,
แอล-คาร์นิทีน ,โครเมียม อะมิโน แอซิด คีเลต ,วิตามิน บี6
คุณสมบัติ
ทำให้คุณสามารถลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ และปลอดภัย
  มาดูส่วนประกอบหลัก กันนะครับ แล้วคุณจะรู้ว่าสินค้าตัวนี้ วิเศษจริงๆ

มีสารที่เป็นประโยชน์กับร่างกาย คือ  

Garcinia หรือ HCA ช่วยควบคุมน้ำหนัก เนื่องจากมีประสิทธิภาพสูงสุด ในการยับยั้งการสร้างและร่างกายเผาผลาญไขมันส่วนเกิน ยับยั้งการอยากอาหาร และช่วยลด Cholesterol ทำให้รูปร่างสมส่วน มีทรวดทรงสวยงาม

  • Vitamin C ช่วยควบคุมความดันโลหิต ทำให้ผิวพรรณสดใสเปล่งปลั่ง
  • เปลี่ยนแป้งและน้ำตาลที่ทานเข้าไปเป็นพลังงานไกลโคเจนแทนการสะสมในรูปไขมัน
  • ร่างกายใช้พลังงานไกลโคเจนได้ในระดับที่ต้องการ ทำให้รู้สึกอิ่ม
  • ผลโดยร่วมทำให้ไขมันลดลง กินอาหารน้อยลง
  • เหงื่อออกมาก เหนี่ยวตัวง่าย สาร HCA จะขับของเสียที่มันหมักหมกอยู่ในร่างกายออกมา
  • ไม่ออกฤทธิ์ต่อประสาทส่วนกลาง
  • ไม่เกิดปฏิกิริยาสะท้อนกลับ ที่เรียกว่า YO – YO EFFECT คือ เลิกทานยาลดน้ำหนัก แล้วกลับมาอ้วนอีก

  กลูโกร์คืออะไร   กลูโกร์ เป็นชื่อท้องถิ่นของผลส้มแขก หรือ GARCINIA ที่มีแหล่งกำเนิดในแหล่งภาคใต้ของไทย คือ ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นพันธุ์ที่มีคุณภาพสูง ในส้มแขกมีสารสำคัญที่เรียกว่า HCA ซึ่งมีคุณสมบัติยับยั้งการสร้างไขมันส่วนเกิน จากอาหารประเภทแป้ง ข้าว น้ำตาล ช่วยเร่งการเผาผลาญไขมันสะสมเดิมให้เป็นพลังงาน และสร้างพลังงานเพิ่มขึ้นจากกลูโคส เป็นผลทำให้เกิดไขมันสะสมน้อย มีพลังเพิ่มหิวช้า และอิ่มเร็ว โดยไม่มีผลข้างเคียงใด ๆ ร่างกายจึงแข็งแรงและสดชื่นอยู่เสมอ  

สัปดาห์ที่ 1

 

รู้สึกหิวบ่อย เมื่อหิวให้รับประธานจนอิ่มให้หยุดรับประธานทันทีร่างกายจะอุ่นกว่าปกติ

สัปดาห์ที่ 2

 

รับประทานให้น้อยลง อิ่มเร็วขึ้น ไม่ควรฝืนรับประทานอาหารต่อ เพราะจะทำให้อึดอัดเป็นอาการ ว่าได้ผล มื้อต่อไปให้ลดปริมาณอาหารลง

สัปดาห์ที่ 3

 

รู้สึกอิ่มเสมอ ไม่ค่อยหิว งดอาหารมื้อนั้นได้เลยถ้าไม่หิว ร่างกายจะสดชื่น เคลื่อนตัวได้คล่องว่องไว เสื้อผ้าที่เคยสวมใส่เริ่มรู้สึกหลวม

สัปดาห์ที่ 4

 

เริ่มคุ้นเคยกับการรับประทานอาหารได้น้อย รูปร่างกระชับทั้งส่วนต้นขา ใต้แขน หน้าท้อง และใต้คางในขณะที่ร่างกายยังมีกำลังวังชา และสดชื่นเหมือนเดิม ผิวพรรณ และร่างกายไม่ซูบซีด

 

 

หลังหยุดรับประทานส้มแขกจะกลับมาอ้วนอีกหรือไม่ ?  

ส้มแขกช่วยลดความอ้วน โดยไม่กดประสาท หรือเร่งระบบขับถ่าย แต่จะค่อย ๆ ปรับสมดุลของร่างกาย ให้กินอาหารในปริมาณที่เพียงพอกับความต้องการพลังงาน ที่ต้องใช้ต่อวันของแต่ละบุคคล ดังนั้นเมื่อหยุดใช้ส้มแขกแล้ว จึงไม่กลับมาอ้วนอีก   อาหารกลุ่มคาร์โปไฮเดรตที่รับประทานเข้าไปจะถูกย่อยเป็นกลูโคสและนำไปใช้ 3 รูปแบบ คือ  

1.

 

สร้างเป็นพลังงาน

2.

 

สร้างเป็นพลังงานสะสมในรูปไกลโคเจน ( Glycogen ) ในตับและกล้ามเนื้อ เพื่อพร้อมจะให้พลังงานได้ทันทีที่ต้องการ

3.

 

เป็นกูลโคสส่วนที่เหลือ ซึ่งเปลี่ยนไปเป็นไขมันสะสมตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น บริเวณหน้าท้อง สะโพก คอ ใต้ท้องแขน เป็นต้น


L-carnitine & Weight Reducing Supplement
แอล-คาร์นิทีน กับบทบาทเพื่อการลดน้ำหนัก
        
แอลคาร์นิทีน(L-Carnitine) เป็นชื่อกรดอะมิโนชนิดหนึ่งที่ผลิตได้ที่ตับ โดยมีการสังเคราะห์จาก
กรดอะมิโน 2 ชนิดคือ Lysine และ Methionine พร้อมกับอาศัยตัวเร่งให้เกิดการสังเคราะห์ ได้แก่ Niacin วิตามิน B6 C และธาตุเหล็ก โดยปกติจะพบในสัตว์เนื้อแดงชนิดต่างๆ โดยเฉพาะในส่วนกล้าม
เนื้อลายจะมากเป็นพิเศษ
        
ซึ่งในความเป็นจริงนั้น หน้าที่หลักของ Carnitine จะช่วยลำเลียงโมเลกุลไขมันเล็กๆ เข้าไปใช้ใน
เซลล์ต่างๆ ซึ่งในจุดนี้เองที่จะทำให้เกิดการนำไขมันไปเปลี่ยนเป็นพลังงาน ดังนั้นหากร่างกายขาดสาร Carnitine หรือมีไม่เพียงพอที่จะเป็นตัวพาเม็ดไขมันไปเผาผลาญแล้วละก็ ปัญหาสุขภาพอันเนื่องมา
จากไขมันสะสมก็จะเป็นเรื่องตามมาที่สามารถส่งผลเสียต่อร่างกายของคุณอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น
ความอ้วน และการสะสมของไขมันตามหลอดเลือด ซึ่งอาจจะส่งผลต่อความยืดหยุ่นของหลอดเลือด และ
นำมาซึ่งปัญหาไขมันในเลือดสูงและมีความดันโลหิตสูงตามมาได้ นอกจากนี้ ยังอาจจะมีอาการปวดเมื่อย
กล้ามเนื้อแขนขา อ่อนเพลีย ซึมและเหนื่อยง่าย
       
มีงานวิจัยมากมายที่ยืนยันถึงประโยชน์ของการใช้ L-carnitine ในวงการแพทย์ ไม่ว่าจะเป็นการใช้
ในผู้ป่วยที่มีปัญหากล้ามเนื้ออ่อนแรงมาก จนไม่สามารถตั้งศีรษะให้ตรงได้ ซึ่งหลังจากมีการใช้ L-carnitine ขนาด 2 กรัม/วัน อาการดังกล่าวก็หายไป หรือการใช้ในนักกีฬา ก็มีการยืนยันว่าสามารถเพิ่ม
แรงสำหรับการออกกำลังกายหนักๆ เช่น วิ่งมาราธอน รวมทั้งมีการใช้ L-carnitine เพื่อช่วยให้การ
ทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจดีขึ้น
      
ในส่วนบทบาทในการลดน้ำหนักและลดไขมันสะสม ดูเหมือนว่า L-carnitine น่าจะเป็นคำตอบที่ดี
ของคุณๆ ที่ประสงค์จะลดน้ำหนักด้วยสารธรรมชาติ เนื่องจากมีการทดลองนำเอาเซลล์ไขมัน
(Adipose Tissue)
ของคนอ้วนมาวิเคราะห์ พบว่าในเนื้อเยื่อดังกล่าวแทบจะไม่มี Carnitine อยู่เหลือ
เลย ดังนั้นจากความสัมพันธ์นี้เอง ทีมนักวิจัยจึงตั้งสมมติฐานว่า กลไกการลำเลียงไขมันเพื่อไปใช้ หาก
ถูกขัดขวางด้วยวิธีใดก็ตาม ก็จะทำให้เกิดการสะสมของไขมันได้ แต่หากให้สารชนิดนี้เพิ่มเข้าไป ก็จะ
ส่งผลให้อัตราการเผาผลาญของไขมันสะสมมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยอีกหลายชิ้นที่สนับสนุนผล
การลดไขมันสะสมของคนอ้วน โดยการศึกษาดังกล่าว นักวิจัยได้ให้แบ่งวัยรุ่นที่อ้วนเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรก
ให้รับประทาน L-carnitine ขนาด 2 g/วัน อีกกลุ่มได้ยาหลอก (Placebo) โดยทั้งสองกลุ่มถูกจำกัด
อาหารให้มีแคลอรี่เท่าๆกัน และมีการออกกำลังกายขนาดปานกลางเหมือนกัน หลังจากนั้น 3 เดือน
ต่อมาจึงทำการวัดน้ำหนักตัวอีกครั้ง พบว่ากลุ่มที่ได้รับ L-carnitine น้ำหนักตัวลดลงเฉลี่ย 11 ปอนด์ ขณะที่อีกกลุ่มลดลงเฉลี่ยไม่ถึง 2 ปอนด์ และปริมาณไขมันในกระแส

L-LYSINE

.........แอล-ไลซีนเป็นกรดอะมิโนจำเป็น ซึ่งมนุษย์ไม่สามารถสังเคราะห์เองได้ มีคุณสมบัติสำคัญคือ ช่วยสร้างโปรตีน ซึ่งช่วยป้องกันระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายจากการติดเชื้อไวรัส นอกจากนี้ยังช่วยในการดูดซึมกรดอะมิโนตัวอื่น ๆ และสามารถใช้ในกรณีของโรคเริม และแผลในช่องปากได้อีกด้วย

ประโยชน์ของแอล-ไลซีน

  • เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
  • รักษาและลดความถี่ในการกลับเป็นซ้ำของโรคติดเชื้อจากไวรัสเริม และงูสวัด
  • ป้องกันและรักษาแผลร้อนใน
  • ซ่อมแซมเนื้อเยื่อต่าง ๆ
  • ช่วยดูดซึมแคลเซียม ทำให้กระดูกและฟันแข็งแรง
  • ช่วยผลิตฮอร์โมน และเอนไซม์
  • สร้างโปรตีนในกล้ามเนื้อ และกระดูก
  • ใช้ในการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวพรรณมีความยืดหยุ่นและกระชับ

อาการเมื่อขาดแอล-ไลซีน
..........อาจทำให้เกิดโรคโลหิตจาง ผมร่วง ไม่มีแรง ไม่เจริญอาหาร เจริญเติบโตช้า มีจุดแดงที่ตา มีความผิดปกติในการหลั่งเอนไซม์ของร่างกาย


สาหร่ายเคลป์ (Kelp)

ก็เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอีกชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมในการเลือกใช้เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร สำหรับโปรแกรมควบคุมน้ำหนัก ทั้งนี้เนื่องจากการที่เคลป์เป็นสาหร่ายที่ให้สารอาหารจำพวกโปรตีน และเกลือแร่ในปริมาณสูง โดยเฉพาะเกลือแร่ไอโอดีน (Iodine) ที่พบว่าร่างกายของเรามีความจำเป็นต้องได้รับจากแหล่งอาหารต่าง ๆ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการสร้างฮอร์โมนที่มีชื่อว่า ธัยรอยด์ฮอร์โมน (Thyroid Hormone) ที่ถูกสร้างจากต่อมธัยรอยด์ที่อยู่บริเวณด้านข้างทั้งสองของหลอดลม
สาหร่ายเคล์ป นี้จัดเป็นสาหร่ายสีน้ำตาลที่มีขนาดใหญ่โตและสามารถเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว พบได้ทั่วไปในทะเลทั่วโลก และเป็นสาหร่ายที่ให้เกลือแร่ไอโอดีนสูงถึงร้อยละ 0.5

สารสกัดจากมะขามป้อม

สารสกัดจากมะขามป้อม สารสกัดจากมะขามป้อมมี Emblicanin สูงถึง 70% เป็นหนึ่งในสมุนไพรจากอายุรเวทโบราณที่ใช้ในการลดไขม ันในเส้นเลือดหรือไตรกลีเซอไรด์ได้ โดยลดและควบคุมไขมันในเส้นเลือดให้เข้าสู่ระดับปกติ อีกทั้งสารสกัดจากมะขามป้อมยังมีวิตามินซีจากธรรมชาต ิ โดยมีวิตามินซีมากกว่าน้ำส้มคั้นถึง 20 เท่า นอกจากจะมีวิตามินซีที่สูงมากแล้วในมะขามป้อมยังมีสา รป้องกันการเกิดออกซิไดส์วิตามินซี ทำให้วิตามินซีคงตัวอยู่ได้นาน วิตามินซี มีส่วนช่วยเมตาบอลิซึมการเผาผลาญอาหารของร่างกาย อีกทั้งยังมีส่วนช่วยเปลี่ยนกรดอะมิโนให้อยู่ในรูปที ่ร่างกายนำไปใช้ได้ จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งที่จะสนับสนุนเส้นทางลัดของก ระบวนการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรทและไขมันให้เป็นพลังงานไ ด้อย่างสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น


เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ วิตามินซี

เมื่อพูดถึง "วิตามินซี" หรือที่มีชื่อทางเคมีว่า กรดแอสคอบิค (ascobic acid) ที่เชื่อว่าหลายคนคงนึกถึง ผลไม้รสเปรี้ยว อย่างเช่น ส้ม มะนาว ฝรั่ง มะขาม หวาน มะขามป้อม ฯลฯ มากมาย ขอเพียงแต่เป็นผัก ผลไม้ สดๆ เป็นใช้ได้ หรือ บางคนอาจนึกถึงยาเม็ดสีส้ม สีเหลืองที่มีรสชาติออกเปรี้ยว ๆ หวาน ๆ ไว้กิน เวลา มีเลือดออกตามไรฟัน

แล้วคุณเคยสงสัยไหมว่า ในเมื่อวิตามินซีธรรมชาติมีอยู่ในผักผลไม้อยู่แล้ว ทำไม มนุษย์ จึงคิดวิตามินซีสังเคราะห์ขึ้นมาอีก ที่เป็นเช่นนี้เพราะว่ามนุษย์ ได้เล็งเห็น ประโยชน์มากมายที่มนุษย์ได้รับจากการ รับประทานวิตามินซีนั่นเอง อีกทั้งด้วย คุณสมบัติของวิตามินซีธรรมชาติ ที่สลายตัวได้ง่ายเมื่อถูกความร้อน และละลาย น้ำได้

รวมทั้งหากทั้งไว้ในอากาศซึ่งมีความชื้นนาน ๆ หรือถูกสารที่เป็นด่าง คุณสมบัติ และ ปัจจัย ต่าง ๆ เหล่านี้ เป็นตัวทำให้วิตามินซีในพืชผักสลายตัวได้ง่าย โดย เฉพาะ พืชผักที่เด็ดออกมาจากต้นเป็นเวลา นาน ๆ วิตามินซีธรรมชาติ ก็จะสูญ สลายไปกับเวลาอันยาวนานนั่นเอง

วิตามินซี นอกจากนี้จะทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นต้นเหตุของ การเสื่อมของร่างกายแล้ว ยังมี ประโยชน์อีกมากมายต่อมนุษย์

  • สามารถป้องกันและบรรเทาโรคหวัดได้ เนื่องจากช่วยป้องกันเชื้อไวรัส ที่จะไปทำลายเซลล์ และถ้า เป็นหวัด จะหายเร็วกว่าคนปกติ
  • ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของภูมิต้านทานโรค โดยเฉพาะประสิทธิภาพ ของเม็ดเลือดขาว
  • ช่วยส่งเสริมการดูดซึมของธาตุเหล็กและยังเป็นตัวควบคุมขบวนการสร้าง คอลลาเจน ซึ่งเป็นโปรตีน ที่เกิดขึ้นจากกรดอะมิโน ซึ่งช่วยให้กระดูกเป็น รูปเป็นร่างขึ้นมา ถ้าวิตามินซีน้อยลง คอลลาเจนอ่อนแอ ขบวนการซ่อมแซม ส่วน ที่สึกหรอก็ไร้ประสิทธิภาพ
  • ช่วยเพิ่มระดับสารไลไปโปรตีนชนิดที่ดี คือ High Density Lipoprotein (HDL) ในเลือด ทำให้ไขมันที่พอกพูนอยู่ตามเส้นเลือด ที่ถูกขนไปจำกัด ทั้งมากขึ้น และช่วยลดระดับ LOW Density Lipoprotein (LDL) ซึ่งขนไขมันไปพอกพูนเส้นเลือดในร่างกายแล้วทำให้หลอดเลือดอุดตัน และวิตามินซียังช่วยควบคุมโคลเลสเตอรอล และป้องกันการเกิดนิ่ว ในถุงน้ำดีอีกด้วย
  • ช่วยลดความเครียด และยังเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนกรดอะมิโน ให้กลายเป็น สารในสมอง ซึ่งมี ความจำเป็นต่อสมองและหน้าที่ของระบบประสาทด้วย
  • ช่วยป้องกันการเกิดออกซิเดชั่นของเซลล์สเปิร์ม จึงช่วยให้เชื้ออสุจิ แข็งแรง ขึ้น ลดปัญหา การเป็นหมันในผู้ชาย
  • จะช่วยยืดอายุผู้ป่วยมะเร็งระยะท้าย ๆ ออกไปได้ 3-10 เท่า หากใช้วิตามินซี ในปริมาณสูงจะช่วยยับยั้ง การกระจายเซลล์มะเร็งไม่ให้ลามไปยังอวัยวะอื่น ด้วยเหตุที่ร่างกายมนุษย์ไม่สามารถสร้างวิตามินซีขึ้นมาใช้เองได้ จึงได้มีการ สังเคราะห์วิตามินซี จากกลูโคส ซึ่งนำมาจากแป้งและน้ำตาลในพืช การบริโภค วิตามินซีสังเคราะห์ทำให้คนทั่วไปสามารถ ซื้อหาได้ใน ปริมาณ สูง เท่าที่ ร่างกาย ต้องการ โดยมีราคาพอสมควรและสามารถ ควบคุม ปริมาณที่บริโภค ผักและ ผลไม้สดเป็นประจำ เพื่อให้ร่างกายได้ รับวิตามิน

วิตามินบี6

มีชื่อทางเคมีว่า ไพริดอกซิน(Pyridoxin) ความสำคัญของวิตามินบี6 มีดังนี้ คือ

       circle01_lightblue_1.gif ใช้ในการผาผลาญกรดอะมิโนทริปโตเฟนในร่างกาย

       circle01_lightblue_1.gif หากขาดจะเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตันได้ง่าย เพราะวิตามินบี6จะช่วยในการเผาผลาญคอเลสเตอรอลอย่างมีประสิทธิภาพ

       circle01_lightblue_1.gif ช่วยในการเผาผลาญโปรตีน ช่วยสร้างเนื้อเยื่อของร่างกาย ช่วยให้ร่างกายนำพลังงานจากโปรตีนมาใช้


โครเมียม

โครเมียมทำหน้าที่อะไร
โครเมียม เป็นแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายเพื่อการเจริญเติบโตที่มีสุขภาพที่ดี มันมีความจำเป็นต่อขบวนการแตกของโมเลกุลโปรตีน ไขมัน และ คาร์โบไฮเดรต รองจาก แคลเซียม แล้ว โครเมียม

 

เป็นแร่ธาตุที่ได้รับความนิยมมากสำหรับคนอเมริกันที่รับประทานเป็นประจำ และยังเป็นที่ร่างกายต้องการ โครเมียม ในปริมาณ 50 – 200 ไมโครกรัมต่อวัน โครเมียม มีส่วนในการช่วยรักษาปริมาณน้ำตาลในร่างกายให้คงที่ (ในขบวนการย่อยสลายคาร์โบไฮเดรต) ในงานวิจัยพบว่า โครเมียม เป็นส่วนประกอบของสารที่เรียกว่า GTF (Glucose tolerance factor) โดยทำงานร่วมกับ ไนอาซิน และ กรดอะมิโน อีกหลายชนิด นอกจากนั้น โครเมียม อาจมีบทบาทในการเพิ่ม HDL หรือ คลอเรสเตอรอล ชนิดดี และ ลดระดับ คลอเรสเตอรอล ทั้งหมด

โครเมียม จะกระตุ้นการทำงานของเอ็นไซม์ที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนน้ำตาลกลูโคสให้เป็นพลังงาน และขบวนการสังเคราะห์กรดไขมัน และ คลอเรสเตอรอล จึงดูเหมือนว่า โครเมียม จะเพิ่มประสิทธิภาพของอินซูลิน และการจัดการกับน้ำตาลกูลโคส ป้องกันการเกิดน้ำตาลในเลือดต่ำ (เพราะว่ามีอินซูลินมากเกินไป) หรือโรค เบาหวาน (เพราะว่ามีอินซูลินน้อยเกินไป)

จากการศึกษาพบว่า โครเมียม แบบที่เรียกว่า โครเมียมพิกโคลิเนต (Chromium Picolinate) มีบทบาทในการเปลี่ยนแปลงปริมาณของไขมันในร่างกาย โดยพบว่า โครเมียมพิกโคลิเนต อาจจะลดปริมาณไขมัน และกระตุ้นการสร้างมวลกล้ามเนื้อ โดยมีงานวิจัยที่ทดลองให้ โครเมียมพิกโคลิเนต ขนาด 400 ไมโครกรัมต่อวันกับอาสาสมัครเป็นระยะเวลา 3 เดือน พบว่ามีการลดลงของปริมาณไขมันในร่างกาย และ น้ำหนักร่างกาย อย่างไรก็ตาม การศึกษาอื่นก็ไม่สามารถยืนยันผลของ โครเมียมพิกโคลิเนต ต่อการเปลี่ยนแปลงนี้ได้

ประโยชน์ของโครเมียม
คนส่วนใหญ่ไม่จำเป็นต้องรับประทานอาหารเสริม โครเมียม เลยหากสามารถรับประทานได้จากอาหารได้อย่างเพียงพอ แต่ทั้งนี้ในปัจจุบันอาหารที่เรารับประทานมักจะผ่านกรรมวิธีมามากจนทำให้สารอาหารต่างๆ รวมทั้ง โครเมียม ถูกขจัดออกไปจากอาหารทำให้ในบางรายอาจจะจำเป็นต้องพิจารณารับประทาน โครเมียม เป็นอาหารเสริม เหมือนกับวิตามินตัวอื่นๆ

ลดระดับคลอเรสเตอรอลในร่างกาย
จากหลักฐานการศึกษาวิจัยพบว่า โครเมียม (ทั้งในรูปแบบพิกโคลิเนตและอื่นๆ) พบว่ามีผลในการลดระดับ คลอเลสเตอรอล ในร่างกาย โดยการมีบทบาทไปเพิ่ม HDL หรือ คลอเรสเตอรอล ชนิดดี และ ลดระดับ คลอเรสเตอรอล ทั้งหมด

ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและโรคเบาหวาน
ในผู้ป่วยโรค เบาหวาน แบบที่ 2 โครเมียมมีส่วนในการช่วยรักษาปริมาณน้ำตาลในร่างกายให้คงที่ (ในขบวนการย่อยสลายคาร์โบไฮเดรต) ในงานวิจัยพบว่าอินซูลินที่หลั่งจากตับอ่อนจะมีความสัมพันธ์กับระดับน้ำตาลในเลือด แต่ปัญหาคือเซลร่างกายผู้ป่วยไม่ตอบสนองต่ออินซูลิน โครเมียม เป็นส่วนประกอบของสารที่เรียกว่า GTF (Glucose tolerance factor) โดยทำงานร่วมกับ ไนอาซิน และ กรดอะมิโน อีกหลายชนิดจะไปช่วยกระตุ้นให้เซลร่างกายตอบสนองต่ออินซูลินได้ดียิ่งขึ้น ช่วยให้ระดับน้ำตาลเข้าสู่ระดับปกติ มีการทดลองซึ่งเป็นการทดลองแบบที่ทั้งผู้ทดสอบและผู้ถูกทดสอบจะไม่มีใครทราบเลยว่าได้ยาที่มีส่วนผสมของ โครเมียม หรือไม่มี เพื่อตัดตัวแปรด้านความรู้สึกของผู้เข้าการทดลองที่อาจะมีผลต่อการวัดผลในประสิทธิภาพของ โครเมียม ซึ่งผลการทดลองสนับสนุนสรรพคุณด้านการลดน้ำตาลในเลือดของ โครเมียม

เนื่องจาก โครเมียม ช่วยในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และช่วยในการทำให้ glucose tolerance ดีขึ้น ดังนั้นการได้รับ โครเมียม จึงมีประโยชน์ต่อผู้ป่วยโรค เบาหวาน ชนิดที่ 2 คนที่มีอาการระดับน้ำตาลในเลือดต่ำก็มีอาการดีขึ้น เมื่อได้รับ โครเมียม 200 ไมโครกรัมต่อวัน

ช่วยเรื่องการลดน้ำหนัก
มีเพียง โครเมียมพิกโคลิเนต ที่แสดงผลในเรื่องนี้คือมันไปช่วยเร่งการเผาผลาญไขมันในร่างกาย และไปเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ มีการศึกษาเมื่อปี 1998 โดยมีอาสาสมัครสุขภาพดีจำนวน 122 คนที่เป็นสมาชิกของเฮลท์คลับต่างๆ ในเทกซัสได้รับ โครเมียม จำนวน 400 ไมโครกรัมต่อวันของ โครเมียมพิกโคลิเนต หรือยาหลอกเป็นระยะเวลติดต่อกัน 3

   
   
 
 
แสดงความเห็นต่อบทความนี้
User :
Pass :
ลืมรหัสผ่าน

 
 
© Copyright 2007 SIAM-SHOP.COM All Rights Reserved.