|
|
เมิร์กส่งสัญญาณยอมลดราคายา ยูเอ็นเอดส์ตั้ง มงคล
|
|
เมิร์กส่งสัญญาณยอมลดราคายา ยูเอ็นเอดส์ตั้ง มงคล |
|
|
เมิร์กส่งสัญญาณยอมลดราคายา ยูเอ็นเอดส์ตั้ง มงคล นั่งซีอีโอ |
โดย ผู้จัดการรายวัน |
20 พฤษภาคม 2550 21:36 น. |
|
กระทรวงสาธารณสุขไทย และบราซิลผนึกกำลังประกาศจุดยืนร่วมให้ประชาชนยากจนเข้าถึงยา พร้อมกระชับมิตรจัดแผนร่วมมือกันพัฒนาด้านสุขภาพ รวมถึงการผลิตวัคซีนโรคไข้หวัดใหญ่ในอนาคต พร้อมเผยเมิร์กฯ ส่งสัญญาณถอย ยอมเปิดเจรจากับสธ.อีกครั้ง ด้านองค์กรยูเอ็นเอดส์ เชิญ นพ.มงคล เป็นประธานกรรมการบริหาร มีวาระ 1 ปี เริ่มทำหน้าที่ปลายเดือน มิ.ย.นี้ เหตุเพราะผลงานเอดส์ของไทยโดดเด่นเข้าตานานาชาติ นพ.มงคล ณ สงขลา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ระหว่างเข้าร่วมประชุมสมัชชาอนามัยโลก ครั้งที่ 60 ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ว่า ได้หารือกับ นายโจซี่ โกเมส เทมโปเรโอ (H.E. Mr.Joze Gomez Temperao) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขประเทศบราซิลและคณะ ซึ่งประเทศบราซิลประกาศการให้ยาต้านไวรัสเอดส์กับผู้ติดเชื้อเอดส์ทุกราย ตั้งแต่ พ.ศ.2540 แต่ก็มีปัญหายาราคาแพง ทำให้ผู้ป่วยเอดส์ไม่สามารถเข้าถึงยาที่ดีได้ทุกคน ทั้งนี้ บราซิลได้พยายามต่อรองราคายากับบริษัทยาโดยตลอด ซึ่งก็ได้ผลระดับหนึ่งแต่ไม่มากนัก เมื่อเร็วๆ นี้ ก็ได้ทำการต่อรองราคายาเอฟาวิเรนซ์อีกถึง 7 ครั้ง ได้ลดราคาเพียงร้อยละ 2 แต่พอประกาศว่าจะทำการบังคับใช้สิทธิ บริษัทก็ลดราคาลงมาให้ร้อยละ 30 แต่ในที่สุดประธานาธิบดีลูราได้ลงนามในประกาศบังคับใช้สิทธิเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2550 และสามารถซื้อยาจากประเทศอินเดียได้เพียงเม็ดละ 39 เซนต์สหรัฐ ลดลงกว่าเดิมถึงกว่า 4 เท่า ทำให้คนไข้เข้าถึงยาได้มากขึ้นมาก ในขณะที่ประเทศไทยสั่งในราคาเม็ดละ 45 เซนต์สหรัฐ สูงกว่าของบราซิล การที่บราซิลซื้อยาได้ถูกกว่าไทย เนื่องจากซื้อทีหลังไทย และสามารถต่อรองได้โดยใช้เกณฑ์ราคาของประเทศไทย และส่วนหนึ่งบราซิลซื้อยามากกว่าไทย เพราะมีผู้ป่วยโรคเอดส์ที่ต้องกินยาเอฟาวิเรนซ์มากถึง 75,000 คน หรือมากกว่าไทยเกือบ 3 เท่า จึงได้ราคาที่ถูกลงไปอีก นพ.มงคล กล่าว และว่าการซื้อยาได้ถูกลงถือว่าเป็นผลดีของการทำซีแอล ฉะนั้น หากเราซื้อต่อไป ก็จะพยายามให้ได้ราคายาต่ำลงเรื่อย ๆ เพราะยาชื่อสามัญที่ไม่ติดสิทธิบัตรน่าจะมีแนวโน้มลดลง นพ.มงคล กล่าวต่อว่า ขณะนี้มีสัญญาณที่ดี เนื่องจากได้รับแจ้งจากบริษัท เมิร์ก ชาร์ปแอนด์โดรม ว่าจะเจรจากับประเทศไทยที่กรุงเทพฯ อีก หากบริษัทลดราคาสู้กับยาสามัญ ก็จะทำให้อย่างน้อยที่สุด คนที่จะใช้ยาของบริษัทดังกล่าวจะโชคดี เพราะจะได้ยาดีและมีราคาถูกยิ่งขึ้น โดยในการประชุมสมัชชาอนามัยโลกปีนี้ ประเทศบราซิลได้นำเรื่องการทำซีแอลเข้าสู่การพิจารณาด้วย เพื่อผลักดันให้ที่ประชุมยอมรับหลักความยืดหยุ่นของข้อตกลงการค้าทริปส์ ไม่เกิดการกดดันเนื่องจากการทำซีแอล ไม่ว่าบราซิลหรือไทย ได้ประกาศใช้อย่างโปร่งใส ไม่ผิดกติกา และสากลต่างยอมรับในหลักเกณฑ์นี้ ทั้งนี้ จะมีการลงนามในข้อตกลงความร่วมมือด้านสาธารณสุขระหว่างไทยกับบราซิล ในช่วงกลางเดือนสิงหาคม 2550 ที่ประเทศบราซิล โดยนอกจากความร่วมมือในเรื่องการพัฒนาสุขภาพและการผลิตยาสามัญแล้ว ยังมีแผนจะร่วมกันในการผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ซึ่งบราซิลได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากบริษัท ซาโนฟี่ อเวนตีส ส่วนโรงงานผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่ของไทย ได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากประเทศจีน ภายใต้การสนับสนุนทางวิชาการจากองค์การอนามัยโลก ซึ่งผลประโยชน์จะเกิดขึ้นมากมายกับประเทศไทย และยังสามารถใช้ความร่วมมือทางสาธารณสุข ขยายผลความร่วมมือทางการค้าหรืออื่นๆ ระหว่างกันต่อไปได้ หมอมงคล นั่ง ปธ.บอร์ดยูเอ็นเอดส์ วันเดียกัน นพ.มงคลได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังพบและหารือกับ นพ.ปีเตอร์ ปิออต (Dr.Peter Piot) ผู้อำนวยการองค์การเอดส์แห่งสหประชาชาติ หรือยูเอ็นเอดส์ (UNAIDS) ว่า ได้ตอบรับคำเชิญของ นพ.ปีเตอร์ ที่ขอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขของไทย รับหน้าที่เป็นประธานกรรมการบริหารขององค์กรยูเอ็นเอดส์ ต่อจากรัฐมนตรีสาธารณสุขสวีเดน โดยมีระยะเวลาการดำรงตำแหน่ง 1 ปี ซึ่งการทำหน้าที่นี้จะสลับกันระหว่างประเทศที่พัฒนากับประเทศกำลังพัฒนา ทั้งนี้ คณะกรรมการเศรษฐกิจและสังคมขององค์การสหประชาชาติ จะพิจารณาเป็นปีๆ ไปตามความเหมาะสม โดยขึ้นอยู่กับศักยภาพของแต่ละประเทศ ซึ่งนพ.ปีเตอร์ เป็นผู้ให้การสนับสนุนการทำซีแอลของประเทศไทยอย่างเต็มที่ โดยได้ทำหนังสือแสดงการสนับสนุนอย่างเป็นทางการ ในฐานะผู้อำนวยการองค์กรเอดส์แห่งสหประชาชาติ ตั้งแต่ 26 ธันวาคม 2549 สำหรับคณะกรรมการบริหารองค์กรยูเอ็นเอดส์ ประกอบด้วยสมาชิก 37 คน จากประเทศสมาชิกต่างๆ 22 ประเทศ องค์กรของสหประชาชาติ 10 แห่ง และองค์กรภาคประชาสังคมอีก 5 แห่ง คณะกรรมการมีการประชุมปีละ 2 ครั้ง ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขไทยจะเริ่มทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม ตั้งแต่วันที่ 25 มิถุนายน 2550 เป็นต้นไป ขณะนี้ได้จัดเตรียมทีมงานสนับสนุน ประกอบด้วย นักวิชการกระทรวงสาธารณสุข สำนักงานทูตถาวรประจำองค์การสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา และมี ดร.วีรสิทธิ์ สิทธิไกรย์ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญโรคเอดส์ และเคยทำงานกับองค์กรนี้มาก่อน ร่วมให้การสนับสนุนด้วย นพ.มงคล กล่าวต่อว่า การที่ไทยได้รับเชิญให้เป็นประธานกรรมการบริหารองค์กรยูเอ็นเอดส์ ถือว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่งของประเทศไทย ทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศไทยโดดเด่นในสายตาของนานาชาติมากขึ้น เนื่องจากผลงานการทำงานแก้ไขปัญหาเอดส์ของไทย เป็นที่ยอมรับของนานาชาติ อยู่ในระดับแนวหน้าของโลก ทั้งเรื่องการป้องกัน การเข้าถึงยาของผู้ป่วยโรคเอดส์ ซึ่งไทยจัดเป็น 1 ใน 2 ของประเทศกำลังพัฒนาคู่กับประเทศบราซิล ที่ได้ประกาศนโยบายการเข้าถึงยาต้านไวรัสเอดส์อย่างถ้วนหน้า และสามารถปฏิบัติได้จริง รวมถึงการประกาศใช้สิทธิโดยรัฐต่อสิทธิบัตรยา หรือซีแอลยาต้านไวรัสเอดส์ทั้งสองประเทศ สำหรับการทำหน้าที่เป็นประธานกรรมการบริหารองค์กรยูเอ็นเอดส์ ถือว่าอยู่ในระดับของผู้กำหนดทิศทางแก้ไขปัญหาเอดส์ทั่วโลก และปฏิรูปองค์กรให้ทันต่อสถานการณ์ เพราะขณะนี้ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อกว่า 40 ล้านคน ร้อยละ 95 อยู่ในประเทศกำลังพัฒนา สาเหตุการติดเชื้อส่วนใหญ่เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัย โดยมีอัตราการใช้ถุงยางอนามัยป้องกันเพียงร้อยละ 20 เท่านั้น ในขณะที่ไทยมีอัตราการใช้เฉลี่ยร้อยละ 87 จึงเป็นโอกาสดีของประเทศไทยที่จะได้เผยแพร่โครงการถุงยางอนามัย 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งไทยประสบผลสำเร็จมาก่อนสู่ประเทศอื่นๆ เพื่อลดพฤติกรรมเสี่ยงของประชาชนให้มากที่สุด และถุงยางอนามัยยังเป็นเครื่องมือที่มีราคาถูกมาก และให้ประสิทธิภาพการป้องกันสูง อนึ่ง องค์กรยูเอ็นเอดส์เป็นองค์กรที่องค์การสหประชาชาติตั้งขึ้นเพื่อดำเนินการด้านโรคเอดส์ทั่วโลกโดยเฉพาะมีองค์กรระหว่างประเทศ เช่น ยูเนสโก ยูเอ็นเอฟพีเอ องค์การอนามัยโลก ธนาคารโลก ร่วมด้วย ทำหน้าที่สนับสนุนด้านวิชาการและด้านข้อมูลข่าวสาร รวมทั้งการผลักดันนโยบายด้านการควบคุมและแก้ปัญหาเอดส์แก่ทุกประเทศทั่วโลก โดยมีงบประมาณราย 2 ปี ประมาณ 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งรัฐบาลไทยได้บริจาคเงินด้วยประมาณ 50,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี หรือประมาณ 2 ล้านบาท โดยองค์กรยูเอ็นเอดส์มีสาขากระจายครอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วโลก สำหรับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีสำนักงานสาขาตั้งอยู่ที่กรุงเทพมหานคร
| | |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|