โยโย แอฟเฟค
 
        คงต้องยอมรับกันละครับว่าไอ้การลดความอ้วนนะ มันยากพอๆกับการเลิกยา
เสพติด ทีเดียว เพราะหลายๆครั้งที่มีการทำวิจัยพบว่า หลายๆคนที่ลดความอ้วนลง
มาได้นั้น ต่อมาไม่นานก็กลับมาอ้วนใหม่ และมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ
       แบบนี้ เขาเรียกกันว่า ผลกระทบลูกดิ่ง 55 หรือ โยโย แอฟเฟค
       คุณเคยเล่นหรือเปล่า ลูกดิ่ง เวลาเราโยนมันลงไป แล้วมันกลับเด้งขึ้นมา
มากกว่าที่เราโยนเสียอีก คนที่อ้วนๆผอมๆอยู่ตลอดเวลานี้น่ากลัวมากนะครับ ถึง
ขนาดที่ว่าหากเป็นอย่างนี้ อย่าลดเลยทีกว่า
        มีตัวเลขทางสถิติของอเมริกา พบว่า ผู้ที่ลดความอ้วน 10 คนนั้น ปรากฎว่า
กว่า มี 8 คนครับ ที่กลับมาอ้วนขึ้นอีก ฟังแล้วห่อเหี่ยวเหมือนกันนะครับ
        ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น???
        สำคัญที่สุดคือ การปรับเปลี่ยนอุปนิสัยในการกิน และวิถีทางดำเนินชีวิตให้
ถูกต้อง ไม่ใช่พอผอมลงก็เผลอตัว ปล่อยใจ กลับมากินแหลกเหมือนเดิม มันก็
กลับมาอ้วนซิครับ คุณพี่
        และนั้น ทำให้ความพยายามลดน้ำหนัก ครั้งหลังๆ จะยากกว่าครั้งแรก
มหาศาล ด้วย และความยากมันจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
        อ. ดำรง กิจกุศล ได้ยกตัวอย่าง ในหนังสือ คู่มือลดความอ้วน ว่า ในร่างกาย
มนุษย์ จะมีการปรับตัวได้ดีกว่า เครื่องจักร คนที่เคยกินอาหารวันละ 2,500
แคลอรี และมีน้ำหนักคงที่ คือ ร่างกายใช้หมดไป 2,500 แคลอรีเท่ากัน แต่ถ้า
ผ่านการจำกัดอาหารเพื่อลดความอ้วน โดยให้กินวันละ 1,500 แคลอรี สักระยะ
หนึ่ง ร่างกายก็จะปรับให้สามารถรักษาระดับ 1,500 แคลอรีได้
       ดังนั้นหากเขาไปกินอาหารวันละ 1,800 แคลอรี เขาก็มีสิทธิอ้วนขึ้นได้ เพราะ
ยังเหลือ แคลอรีอยู่อีกวันละ 300 แคลอรี
      เพราะฉะนั้น หากเราจับหลักนี้ให้มั่นนะครับ เราจะเห็นว่า วิธีการลดความอ้วน
ที่
ไม่เน้นเรื่องการปรับเปลี่ยนอุปนิสัยการทาน และการเผาผลาญจำนวนแคลอรีให้
มากขึ้นละก็ โอกาสกลับมาอ้วนใหม่ก็สูงคร้าบ
      เช่น คุณกินอาหารประเภท สูตร 3 วัน 7 วัน หรือพวก แคมบริด ไดเอ็ท
แน่นอนลดลงแน่ แต่ถามหน่อยสิว่าคุณจะสามารถทานแบบนั้นไปได้ทั้งชีวิตหรือ
เปล่า
     หรืออย่างการเข้าไปศูนย์ลดความอ้วน ที่วิธีการของเขาไม่เน้นเรื่องการปรับ
อุปนิสัยการกิน และการออกกำลังกาย เช่น การประคบร้อน ประคบเย็น การนวด
ลดอ้วน การใช้ไฟฟ้ากระตุ้น และอะไรอีกหลากวิธีแล้วแต่จะหามาหลอกกัน ผมว่า
ถึงแม้จะลดลงได้  แต่พอจบคอร์สของเขาแล้ว ความอ้วนก็กลับมาเยือนชัวร์ๆ
     ส่วนพวกที่ยิ่งเลอะเทอะ เช่น การผ่าตัดเอาไขมันส่วนเกินออก ดูดไขมัน กิน
แล้วก็คาย อะไรพวกนี้ ถามหน่อยเถอะ มันจะคงทนถาวรมากแค่ไหนกัน
      ปรับเปลี่ยนอุปนิสัยการกิน และการออกกำลังกาย เท่านั้นครับ ที่ป้องกันการ
เกิด โยโย แอฟเฟค
 
คลิ๊กสักนิดเพื่อชิวิตที่ดีกว่า
www.stopfatclub.com  

        คงต้องยอมรับกันละครับว่าไอ้การลดความอ้วนนะ มันยากพอๆกับการเลิกยา

เสพติด ทีเดียว เพราะหลายๆครั้งที่มีการทำวิจัยพบว่า หลายๆคนที่ลดความอ้วนลง

มาได้นั้น ต่อมาไม่นานก็กลับมาอ้วนใหม่ และมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ

       แบบนี้ เขาเรียกกันว่า ผลกระทบลูกดิ่ง 55 หรือ โยโย แอฟเฟค

       คุณเคยเล่นหรือเปล่า ลูกดิ่ง เวลาเราโยนมันลงไป แล้วมันกลับเด้งขึ้นมา

มากกว่าที่เราโยนเสียอีก คนที่อ้วนๆผอมๆอยู่ตลอดเวลานี้น่ากลัวมากนะครับ ถึง

ขนาดที่ว่าหากเป็นอย่างนี้ อย่าลดเลยทีกว่า

        มีตัวเลขทางสถิติของอเมริกา พบว่า ผู้ที่ลดความอ้วน 10 คนนั้น ปรากฎว่า

กว่า มี 8 คนครับ ที่กลับมาอ้วนขึ้นอีก ฟังแล้วห่อเหี่ยวเหมือนกันนะครับ

        ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น???

        สำคัญที่สุดคือ การปรับเปลี่ยนอุปนิสัยในการกิน และวิถีทางดำเนินชีวิตให้

ถูกต้อง ไม่ใช่พอผอมลงก็เผลอตัว ปล่อยใจ กลับมากินแหลกเหมือนเดิม มันก็

กลับมาอ้วนซิครับ คุณพี่

        และนั้น ทำให้ความพยายามลดน้ำหนัก ครั้งหลังๆ จะยากกว่าครั้งแรก

มหาศาล ด้วย และความยากมันจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

        อ. ดำรง กิจกุศล ได้ยกตัวอย่าง ในหนังสือ คู่มือลดความอ้วน ว่า ในร่างกาย

มนุษย์ จะมีการปรับตัวได้ดีกว่า เครื่องจักร คนที่เคยกินอาหารวันละ 2,500

แคลอรี และมีน้ำหนักคงที่ คือ ร่างกายใช้หมดไป 2,500 แคลอรีเท่ากัน แต่ถ้า

ผ่านการจำกัดอาหารเพื่อลดความอ้วน โดยให้กินวันละ 1,500 แคลอรี สักระยะ

หนึ่ง ร่างกายก็จะปรับให้สามารถรักษาระดับ 1,500 แคลอรีได้

       ดังนั้นหากเขาไปกินอาหารวันละ 1,800 แคลอรี เขาก็มีสิทธิอ้วนขึ้นได้ เพราะ

ยังเหลือ แคลอรีอยู่อีกวันละ 300 แคลอรี

      เพราะฉะนั้น หากเราจับหลักนี้ให้มั่นนะครับ เราจะเห็นว่า วิธีการลดความอ้วน

ที่

ไม่เน้นเรื่องการปรับเปลี่ยนอุปนิสัยการทาน และการเผาผลาญจำนวนแคลอรีให้

มากขึ้นละก็ โอกาสกลับมาอ้วนใหม่ก็สูงคร้าบ

      เช่น คุณกินอาหารประเภท สูตร 3 วัน 7 วัน หรือพวก แคมบริด ไดเอ็ท

แน่นอนลดลงแน่ แต่ถามหน่อยสิว่าคุณจะสามารถทานแบบนั้นไปได้ทั้งชีวิตหรือ

เปล่า

     หรืออย่างการเข้าไปศูนย์ลดความอ้วน ที่วิธีการของเขาไม่เน้นเรื่องการปรับ

อุปนิสัยการกิน และการออกกำลังกาย เช่น การประคบร้อน ประคบเย็น การนวด

ลดอ้วน การใช้ไฟฟ้ากระตุ้น และอะไรอีกหลากวิธีแล้วแต่จะหามาหลอกกัน ผมว่า

ถึงแม้จะลดลงได้  แต่พอจบคอร์สของเขาแล้ว ความอ้วนก็กลับมาเยือนชัวร์ๆ

     ส่วนพวกที่ยิ่งเลอะเทอะ เช่น การผ่าตัดเอาไขมันส่วนเกินออก ดูดไขมัน กิน

แล้วก็คาย อะไรพวกนี้ ถามหน่อยเถอะ มันจะคงทนถาวรมากแค่ไหนกัน

      ปรับเปลี่ยนอุปนิสัยการกิน และการออกกำลังกาย เท่านั้นครับ ที่ป้องกันการ

เกิด โยโย แอฟเฟค

คลิ๊กสักนิดเพื่อชิวิตที่ดีกว่า

www.stopfatclub.com