ปัจจุบัน ถ้าจะเอ่ยถึง พระไพรีพินาศ คนส่วนใหญ่คงต้องนึกถึงพระกริ่งและเหรียญพระพุทธรูปปางประทานพร ซึ่งวัดบวรนิเวศวิหารได้จัดสร้างขึ้นเนื่องในวาระฉลองพระชนมายุครบ ๘๐ พรรษาของสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ เมื่อปี พ.ศ.๒๔๙๖ รวมทั้งพระกริ่งและพระพิมพ์ผงภาพพระพุทธรูปพุทธลักษณะเดียวกันนั้น ซึ่งทางวัดได้จัดสร้างขึ้นในระยะหลังอีกหลายรุ่น โดยจำลองแบบมาจากพระพุทธรูปศิลาองค์หนึ่ง ที่มีผู้นำมาถวายพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเมื่อครั้งทรงผนวชอยู่ที่วัดบวรนิเวศวิหาราช
ตามประวัติที่บันทึกไว้ใน ตำนานวัดบวรนิเวศวิหาร ได้กล่าวถึงประวัติความเป็นมาของพระพุทธรูปองค์นี้ไว้ว่า
พระไพรีพินาศองค์เดิมเป็นพระพุทธรูปศิลาขนาดย่อม หน้าพระเพลา ๑ คืบ ๔ นิ้ว สูงตลอดพระรัศมี ๑ ศอก มีเศษไม่ถึงนิ้ว เป็นพระพุทธรูปแบบพระธยานิพุทธเจ้า ปางประทานพร สมัยศรีวิชัย เล่ากันว่าพระพุทธรูปนี้ มีผู้นำมาถวายพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ เมื่อยังทรงผนวชอยู่ในราว พ.ศ.๒๓๙๑ ได้ถวายพระนามว่า"พระไพรีพินาศ"
...พระไพรีพินาศใคร่ครวญตามพระนามน่าจะได้เชิญประดิษฐานไว้ในเก๋งน้อยที่สร้างใหม่ ณ ทักษิณชั้นบนแห่งพระเจดีย์ในครั้งนั้น เว้นไว้แต่ได้ประดิษฐานในครั้งยังทรงผนวชเมื่อปี พ.ศ.๒๓๙๑ ที่เป็นคราวสิ้นเสี้ยนศัตรูครั้งแรก
ปัจจุบัน พระไพรีพินาศประดิษฐานอยู่ที่ซุ้มเก๋งด้านทิศเหนือของพระเจดีย์ประธานของวัด ในหนังสือ ศิลปกรรมวัดบวรนิเวศวิหาร ได้กล่าวถึงเจดีย์ที่สร้างเก๋งประดิษฐานพระไพรีพินาศไว้ตอนหนึ่งว่า...พระเจดีย์ไพรีพินาศเป็นพระเจดีย์ศิลา พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้สร้างขึ้นบรรจุพระพุทธวจนะ ประดิษฐานอยู่ในคูหาภายในเจดีย์ใหญ่วัดบวรนิเวศวิหาร เมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๐๗ ระหว่างการซ่อมแซมพระเจดีย์ได้พบกระดาษขาว มีตราแดง ๒ ดวง มีอักษรเขียนว่า พระสถูปเจดีย์ศิลาบัลลังก์องค์นี้จงมีนามพระไพรีพินาศเจดีย์เทอญ อีกหน้าหนึ่งเขียนไว้ว่า เพราะตั้งแต่ได้ทำมาคนไพรีก็วุ่นวายยับเยินไปโดยลำดับ
พุทธลักษณะของพระไพรีพินาศเป็นพระพุทธรูปประทับนั่งแบบวัชราสน์ (ขัดสมาธิเพชร) บนปัทมาสน์อันประกอบด้วยกลีบบัวคว่ำและกลีบบัวหงายมีเกสรบัวประดับ ทรงแสดงวรมุทรา (ปางประทานพร) โดยหงายพระหัตถ์ซ้ายวางบนพระเพลา พระหัตถ์ขวาวางหงายเหนือพระชานุด้านขวา